15 ธันวาคม 2551

การดูพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ตอนที่ 6 ( พระยุคกลาง-ช่วงปลายวัดทุ่งแฝก)

เราผ่านหลักสูตรการดูพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ในยุคต้นวัดทุ่งแฝกกันมาแล้ว คราวนี้ก็มาต่อกันด้วย พระในช่วงยุคกลางถึงปลายวัดทุ่งแฝกกันนะครับ พระในช่วงกลางและยุคท้ายๆนี้ จะสังเกตุเห็นว่า มวลสารของพระจะละเอียดขึ้น เนื่องจากท่านเริ่มใช้เครื่องบดมวลสารในการทำ แต่มวลสารก็จะเริ่มมีจำนวนน้อยลงตามลำดับ ซึ่งจริงๆแล้ว การจะแบ่งพระในช่วงยุคกลางวัดทุ่งแฝกไปจนถึงยุคต้นๆของวัดไผ่พันมือออกจากกันนั้น ค่อนข้างยาก เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกัน ดังนั้น ลักษณะเนื้อพระที่เราจะศึกษากันในช่วงนี้ จึงเป็นแค่การบอกกล่าวถึงช่วงเวลาคร่าวๆเท่านั้นว่า น่าจะเป็นพระอยู่ในยุคไหน ช่วงเวลาใด พระในยุคท้ายๆ และ ยุคต้นวัดไผ่พันมือนั้น เนื้อพระมักจะมีสีน้ำตาลค่อนข้างจะเข้ม มาดูตัวอย่างพระในยุคนี้กันนะครับ

พระสมเด็จพิมพ์วัดระฆัง หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ เนื้อสีน้ำตาล

Photobucket

องค์นี้ดูจากมวลสารแล้ว ค่อนข้างจะเข้มข้นพอสมควร

Photobucket

พระผงสุพรรณ หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ เนื้อเขียว

Photobucket

พระพิมพ์สมเด็จวัดเกศไชโย หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ เนื้อสีน้ำตาล

Photobucket

Photobucket

พระสมเด็จวัดเกศไชโย หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ เนื้อลูกอมมีห่วง

Photobucket

Photobucket

ลูกประคำสีน้ำตาลแก่เนื้อว่าน หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ยุควัดทุ่งแฝก

Photobucket

เนื้อลักษณะนี้กับเนื้อยุคต้นวัดไผ่นั้น จะความคล้ายคลึงกันมาก จึงแยกออกจากกันค่อนข้างลำบาก

Photobucket


เป็นที่น่าสังเกตุว่า พระและลูกอมในยุคคาบเกี่ยว ระหว่างรอยต่อยุควัดทุ่งแฝกกับวัดไผ่พันมือนั้น จะคล้ายคลึงกันมาก แต่ก็มีจุดน่าสนใจอยู่อย่างหนึ่งว่า ทำไมพระและลูกอมส่วนใหญ่ในยุควัดไผ่พันมือนั้น จึงปรากฏแต่เพียงพระและลูกอมเนื้อสีน้ำตาลเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสีสันก็จะค่อยๆอ่อนจางลงตามลำดับ จนกลายเป็นสีขาวล้วนในสมัยวัดไผ่พันมือยุคต่อมา ทำไมจึงไม่มีสีอื่นเฉกเช่น ในสมัยวัดทุ่งแฝก ???

จากการสันนิษฐาน เราคงทราบกันดีว่า ในประวัติของหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ช่วงที่ท่านจะย้ายจากวัดทุ่งแฝก มาจำพรรษาอยุ่ที่วัดไผ่พันมือนั้น ท่านมาอย่างปัจจุบันทันด่วน มิได้มีการเตรียมการมาล่วงหน้า เนื่องจากมีความขัดแย้งกับเจ้าอาวาสวัดในเรื่องการบรรจุพระในหอระฆัง ซึ่งทำให้ท่าน ไม่สามารถนำมวลสารที่ใช้ทำพระในสมัยนั้นติดตัวมาได้ทั้งหมด คงนำติดตัวมาได้แต่องค์พระที่ทำเสร็จแล้วจำนวนไม่มาก และมวลสารเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น ซึ่งคงจะเป็นมวลสารทำพระสีน้ำตาลนี่เอง ทำให้พระยุควัดไผ่มวลสารไม่จัดจ้าน เข้มข้นและ หลากสีสันเฉกเช่นพระวัดทุ่งแฝก พระสมัยวัดไผ่จึงปรากฏว่าท่านใช้ผงอิทธิเจเป็นมวลสารหลักในการทำพระและลูกอม ทำให้เนื้อพระยุควัดไผ่นั้นแตกต่างจากสมัยทุ่งแฝกอย่างชัดเจน ในตอนหน้า เราจะมาดูพระยุควัดไผ่พันมือกันนะครับ สวัสดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับฉัน