ประคำเส้นนี้เจ้าของเดิมบอกว่า ได้รับมาจากหลวงพ่อในงานบุญที่วัด ได้รับมาพร้อมกับพระแหวกม่านเกศทะลุซุ้มที่ผมลงให้ดูในตอนก่อนนั่นเอง

เมื่อแกะออกมา หน้าตาแบบนี้ครับ


มุมมองจากด้านบน

ไม่ว่าจะเป็นพระ ลูกอม หรือ ลูกประคำที่เป็นเนื้อลักษณะนี้ มีมวลสารที่ถือได้ว่า เป็นจุดตาย ก็คือ 1.มวลสารพระวัดบ้านกร่าง 2.ทองคำเปลว ซึ่งตัวทองคำเปลวนี้ทราบจากประวัติว่า หลวงพ่อสงวนท่านได้ทำการปลุกเสกไว้ จึงเรียกกันในหมู่ลูกศิษย์ว่า "ทองคำเสก " 3.เนื้อเปลือกหอย ลักษณะคล้ายเปลือกกระเทียม อันเป็นมวลสารสำคัญอย่างหนึ่งของพระขุนแผนกรุวัดบ้านร่าง
ที่ลูกศรชี้คือเม็ดกรวดพระขุนแผนวัดบ้านกร่าง สังเกตุลักษณะของเนื้อดินผสมผง ของผิวลูกอมด้วยนะครับ



ทองคำเปลวเสก


เม็ดกรวดพระวัดบ้านกร่างจะกระจายให้เห็นอยุ่ทั่วไปในเนื้อลูกประคำ

สร้อยเส้นนี้มีลูกประคำลูกหนึ่งที่มีรอยแตก และ ได้รับการซ่อมแซมมาจากวัด ผงที่ใช้อุดซ่อมก็มีลักษณะเดียวกับเนื้อพระยุควัดไผ่พันมือนั่นเอง เป็นหลักฐานฟ้องชัดว่า สร้อยเส้นนี้เป็นของที่หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือท่านทำแน่นอนครับ

มาพบกับตัวอย่างอันต่อไปครับ
ลูกอมหัวตะปู เนื้อดินผสมผง หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ

มวลสารจัดจนเกือบนึกว่า เป็นเนื้อพระขุนแผนวัดบ้านเอามาปั้นซะอีก

เปรียบเทียบกับเนื้อพระวัดบ้านกร่างแท้ๆ

ดูเนื้อชัดๆ สังเกตุเม็ดกรวดพระวัดบ้านกร่างอันเป็นจุดตายตามลักษณะที่ผมบอกครับ

ทองคำเสก

จากบทความทั้งสามตอนที่ผ่านมา คงพอช่วยให้ท่านที่สนใจ หรือ กำลังศึกษาพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมืออยู่ ได้รับความรู้เรืองของพระเนื้อแก่ดินกรุ ของหลวงพ่อสงวนไปบ้างไม่มากก็น้อย ก็คงพอช่วยให้ท่าน ดูพระเนื้อแบบนี้ได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่เพื่อมิให้เรื่องราวเยิ่นเย้อจนเกินไป ผมขอจบเรื่องของพระยุคแรกที่เป็นเนื้อดินผสมผงแต่เพียงเท่านี้ ตอนหน้า เราจะมาว่ากัน ถึงพระยุคทุ่งแฝกเนื้ออื่นๆกันนะครับ แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น