เรื่องของ หลวงตาปิ่น วัดโพธิ์นฤมิตร นี่ผมเองก็แปลกใจ เพราะลองถามลุงสุด กับ ป้าฉัตร ก็ไม่มีใครรู้จัก แกทำหน้างงๆ บอกไม่รู้จัก พอผมบอกว่า หลวงตาปิ่น วัดโพธิ์นฤมิตร ลุงสุดทำท่าเหมือนจะนึกออกลางๆ แต่ไม่ค่อยแน่ใจ บอกว่า ไม่เคยเห็นท่านมาวัดไผ่พันมือเลยนะ ไม่ทันหลวงพ่อสงวนหรอก ป้าฉัตรช่วยยืนยันอีกคน ผมก็เลยงงว่า ตกลงใครเป็นคนเต้าข่าวว่า หลวงตาปิ่น สร้างพระยุควัดทุ่งแฝก กัน ทั้งที่พระยุควัดทุ่งแฝกนั้น มีปริมาณไม่น้อย ถ้าท่านทำจริง แสดงว่า ท่านต้องทำพระเยอะมาก แต่ทำไม ชาวบ้านแถบนั้น ไม่รู้จักกันเลยซักคน ทุกคนกลับรู้แต่ว่า พระเหล่านี้ หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ เป็นคนทำ อีกอย่าง หากหลวงตาปิ่นท่านทำ ทำไมท่านใช้รูปหลวงพ่อสงวน ติดหลังพระ??? ทำไมไม่ใช้รูปท่านเอง จะไปว่า เพราะท่านศรัทธาหลวงพ่อสงวน เลยเอารูปหลวงพ่อสงวนมาติด คงฟังไม่ขึ้นเท่าไหร่นะครับ มันดูขัดๆกันยังไงพิกล และ ขัดกับพยานบุคคล รวมทั้งวัตถุพยานทั้งหลายอีกด้วย วันนี้เรามาเจาะลึกกันอีกซักทีนะครับ องค์แรกที่จะพาไปชม ก็พระที่เค้าบอกว่า พระแบบนี้หลวงตาปิ่นสร้างนี่แหละครับ

พระองค์นี้ผมได้มาพร้อมกับ พระพิมพ์แบบนี้ ผมเห็นมาล๊อตใหญ่ ได้มาพร้อมกันประมาณ 20 องค์ครับ มีเนื้อดำ ประมาณสิบองค์ เนื้อขาวแบบนี้ประมาณสิบองค์ มาจากแหล่งเดียวกัน รู้สึกว่า เค้าจะเก็บมาจากบ้านเดียวกันครับ แต่ผมเองเก็บทั้งหมดไม่ไหว ก็เลยเก็บไว้แค่หกองค์ ที่เหลือ ก็ไปอยู่กับสมาชิกแถวๆนี้แหละ จำได้ว่า น้องจ๊อบก็ได้พระล๊อตนี้ไปหลายองค์ พี่ทิดหอมก็ด้วย และแน่นอนครับ เจ้าของเค้าบอกว่า เป็นพระหลวงพ่อสงวน ด้านหลังพระองค์นี้ติดรูปมาแต่เดิมครับ

มวลสารพระองค์นี้ ดูยังไงก็เป็นพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ก็ยังงงอยู่ว่า จะกลายเป็นพระหลวงตาปิ่นไปได้ยังไง มาดูมวลารขยายกันนะครับ ลักษณะเนื้อพระและมวลสารนั้นอยู่ในโซน พระเนื้อขาว ยุควัดทุ่งแฝก แต่จะมีแร่หินสะเก็ดดาวมากกว่าครับ

สังเกตุลักษณะมวลสารที่พระพักตร์องค์พระนะครับ ยังงั๊ย ยังไง ดูมุมไหน ก็เป็นเนื้อหาพระหลวงพ่อสงวน อยู่ดี

มวลสารข้าวทิพย์ชัดเจนแบบนี้ ก็มีแต่หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ เท่านั้น ถ้าพระแหวกม่านองค์นี้เป็นหลวงตาปิ่นสร้าง แน่นอนครับ พระคำข้าว พระเนื้อขาว พระแหวกม่านยุคต้น เนื้อดำ เนื้อน้ำตาล ก็คงเป็นหลวงตาปิ่นสร้างทั้งหมดอย่างที่เค้าว่ากระมัง แต่ถ้าเป็นแบบนั้น พระคำข้าวเนื้อละเอียดพิมพ์พระแหวกม่านหูบายศรี ยุควัดไผ่ของลุงสุด ก็เป็นหลวงตาปิ่นสร้างสิ ซึ่งมันขัดแย้งกับข้อมูล เพราะพระพิมพ์นั้นเราก็รู้กันดีว่าใครสร้าง ดังนั้น พระทั้งหมดที่มีมวลสารข้าวทิพย์แบบนี้จะเป็นหลวงตาปิ่นสร้างไปได้ไงล่ะครับ ไปดูพระองค์ต่อไปที่ได้มาพร้อมกันครับ

องค์นี้ก็ยังเป็นพิมพ์แบบพระองค์ข้างบน เพียงแต่เนื้อเป็นพระเนื้อสีน้ำตาลเข้ม

ด้านหลังติดรูปมาเดิมๆเช่นกัน มวลสารเป็นเหมือนพระแก่เนื้อขี้เถ้าไฟ แต่ยังเห็นเอกลักษณ์พระหลวงพ่อสงวนชัดเจน

ลองดูภาพขยายครับ พระองค์นี้มีเนื้อหาเช่นเดียวกับ พระเนื้อสีน้ำตาลยุควัดทุ่งแฝกทั่วไปนั่นเอง ที่ลูกศรชี้ ก็คือ เม็ดข้าวทิพย์ที่บดไม่ละเอียดนั่นเองครับ

ขยายให้เห็นเนื้อหาด้านหลังกันชัดๆ จะสังเกตุได้ว่า พระมีเอกลักษณ์เนื้อหาของพระหลวงพ่อสงวนครบถ้วน พระสองเนื้อ พิมพ์เดียวกัน ยืนยันชัดเจนครับ ว่าพระแบบนี้ จะเป็นใครสร้างไปไม่ได้นอกจาก หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ มาดูองค์สุดท้ายของวันนี้กัน ก็ยังเป็นพระที่มาเซ็ตเดียวกันครับ
พระสมเด็จแหวกม่านขาโต๊ะ หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ

พระองค์นี้ พิมพ์จะต่างออกไปเล็กน้อย แต่ก็ยังเป็นเนื้อหาเช่นเดียวกับองค์แรก ถ้าลองสังเกตุกันให้ดี จะเห็นว่า แท้จริงแล้วพระพิมพ์นี้ก็คือ พระพิมพ์เดียวกับ พระคำข้าว นั่นเองครับ

ด้านหลัง ติดรูปถ่ายมาแต่เดิมเช่นกัน จะสังเกตุได้ว่า ด้านล่างองค์พระ มีตะกรุดบุบบู้บี้ อยู่ด้วย และ ข้างตะกรุดนั้น เป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ แน่นอนครับ รอยแบบนี้ คงทราบกันดีว่า เป็นรอยเม็ดข้าวทิพย์ที่หลุดออกไปนั่นเอง

ภาพด้านบนนี้ คือ เม็ดข้าวทิพย์ที่ถ่ายจากด้านข้างของพระองค์นี้ เป็นหลักฐานบ่งบอกชัดเจนอีกอย่างหนึ่งครับว่า เป็นพระหลวงพ่อสงวน สร้างแน่นอน

เม็ดข้าวทิพย์ อีกเม็ดหนึ่ง กับ รอยที่ข้าวทิพย์เม็ดข้างๆหลุดออกไป แต่จุดตายสำคัญก็คือ ภาพนี้ครับ

ภาพอาจจะไม่ชัดนักนะครับ เพราะโฟกัสยากมาก เส้นเกศา ที่มีลักษณะใสเป็นเส้นเอ็นแบบนี้ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ช่วยตอกย้ำว่า พระองค์นี้ จะเป็นใครสร้างไปไม่ได้ นอกจากหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ
เป็นไงบ้างครับ วันนี้ก็คงมีหลักฐานเพิ่มเติมกันว่า พระแบบนี้นั้น หลวงตาปิ่น หรือ หลวงพ่อสงวน กันแน่ที่สร้างขึ้นมา ผมเองเคยบอกเสมอนะครับว่า พระหลวงพ่อสงวน ไม่ว่าจะพิมพ์ไหน ก็ล้วนมีมวลสาร ที่สามารถตรวจสอบยืนยันกันได้ เพราะถึงแม้ไม่เหมือนกันเป๊ะๆ แต่มวลสาร และ หลักฐานอื่นๆก็จะบ่งบอกกันได้ แล้วก็จะโยงใยไปถึง พระพิมพ์อื่น สามารถเช็คย้อนไปย้อนมากันได้เสมอ หลักฐานชัดเจนแบบนี้ ท่านยังจะเชื่อ ท่านผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย ที่พยายามจะตีพระยุควัดทุ่งแฝกให้เป็นพระเก๊อีกเหรอครับ ลองใช้วิจารณญาณด้วยตัวท่านเองนะครับ ในคราวหน้า ถ้าไม่กล่าวถึง พระคำข้าว อันเป็นพระสำคัญอีกแบบหนึ่ง ซึ่งมีพิมพ์เช่นเดียวกันนี้ เรื่องนี้ก็คงจบลงแบบไม่สมบูรณ์ครับ ซึ่งพระคำข้าวเอง ก็จะโยงไปหาพระอื่นๆอีกมากมาย คราวหน้า เรามาตรวจสอบพระยุคทุ่งแฝกกันอีกครั้งนะครับ วันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
อืมม มีพิมพ์แบบที่พี่ว่าอยู่หนึ่งองค์ครับ ไม่สวยเท่าไร แต่ถ้าเป็นพระหลวงพ่อผมว่าก็โอเคแล้วครับ
ตอบลบพระหลวงพ่อท่าน พิมพ์ไหนก็ล้วนดีทั้งนั้น ทุกอย่างอยู่ที่ใจครับ จะสวยไม่สวยไม่สำคัญหรอก ถ้าใครจะขายพิมพ์นี้ให้ แล้วเค้าบอกว่า พระหลวงตาปิ่น ก็ช่วยบอกเค้าให้ขายราคาพระหลวงตาปิ่นนะครับ เจอที่ไหนบอกด้วย จะตามไปเก็บให้หมด ^^
ตอบลบขอบคุณที่ให้ความรู้นะคับเพาระผมพิมพ์พอดีเลยคับ
ตอบลบ