

ขยายดูเนื้อหากันหน่อยนะครับ ดูกันง่ายๆสบายตา ว่าเป็นพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือแท้ร้อยเปอร์เซนต์

เนื้อพระนั้นเป็นแบบเดียวกับพระเนื้อดำหรือน้ำตาลยุควัดทุ่งแฝกนั้นเอง ดูกันไม่ยากครับ เพราะเอกลักษณ์ของพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือครบครัน

ถ้ายังกลัวว่าผมจะโมเม ก็ต้องไปเทียบกับพระนอกกรุกันหน่อยครับ สำหรับองค์ที่จะนำมาเปรียบเทียบนั้น เป็นพระสมเด็จสามชั้นหูบายศรี เนื้อแก่ผงปูนแบบเดียวกับพิมพ์พระครูละมูล เจ้าของเดิมคือ เสี่ยไร่อ้อย นั่นเอง

จะสังเกตุได้ไม่ยากว่า แม้จะต่างกันที่เนื้อหา แต่พิมพ์พระนั้นมาจากแม่พิมพ์บล๊อคเดียวกันแบบเป๊ะๆ ความคมชัดและความเก่าขององค์พระนั้น บ่งบอกว่านี่มิใช่พระถอดพิมพ์แล้วมาสร้างใหม่แน่นอน

ขยายให้ดูลักษณะพระเนื้อผงแบบแก่ปูนแบบแท้ดูง่ายสบายตา แม้มิได้ติดรูปถ่ายหลวงพ่อสงวนใดๆมาเลยก็ตาม เนื้อแบบนี้จำกันไว้ให้ดีๆนะครับ นี่แหละคือพระเนื้อยุคต้นๆของวัดไผ่อีกเนื้อหนึ่ง ซึ่งจะแตกต่างจากพระในยุคปลายวัดไผ่พันมือตรงที่ จะมีส่วนผสมของผงน้ำมันและปูนขาวมากจนดูเนื้อเป็นมันวาว และ เนื้อจะแข็งมากกว่าเนื้อในยุคปลายวัดไผ่พันมือ แต่เอกลักษณ์สำคัญอย่างแร่สะเก็ดดาว รวมทั้งมวลสารอย่างอื่นยังมีให้เห็นอยู่ครบ

เป็นไงกันบ้างครับ ผ่านไปแล้วสามพิมพ์ ถึงตอนนี้ก็คงจะหายสงสัยกันไปแล้วว่า พระที่บรรจุอยู่ในกรุอุโบสถเก่าวัดไผ่พันมือนั้น ทั้งจากหลักฐานพยานบุคคล รวมทั้งพิมพ์พระและเนื้อหาล้วนบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเป็นพระแท้ของหลวงพ่อสงวนท่านสร้างและบรรจุไว้เอง มิใช่ใครจะอุตริเอาพระเก๊ที่ไหนมายัดกรุไว้ ใช้วิจารณญาณกันเองแล้วกันนะครับ คงไม่ยากเกินไปนักที่จะวิเคราะห์ว่าความจริงควรเป็นเช่นไร ในสามพิมพ์นี้ยังอยู่ในส่วนของพระเนื้อผงของหลวงพ่อสงวน ซึ่งดูไม่ยากนัก ตอนหน้า ผมจะพาไปเจาะลึก พระเนื้อที่มีมากที่สุดในกรุ ก็คือ เนื้อดินผสมผง ซึ่งดูยากขึ้นไปอีก บางท่านที่ประสบการณ์ยังไม่มาก เพิ่งเล่นหาไม่นาน อาจจะคิดว่า หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ มีแต่พระเนื้อผงเท่านั้น แต่สำหรับแฟนพันแท้บล๊อคนี้ หากติดตามอ่านมาตั้งแต่ตอนต้นๆ คงจะทราบกันดีแล้วว่า พระหลวงพ่อสงวนนั้น มิได้มีแต่พระเนื้อผงเท่านั้น หากแต่มีเนื้ออื่นอีกเยอะแยะมากมาย ซึ่งผมเองก็คงมิได้สามารถรวบรวมมาเขียนให้ท่านทราบได้ทั้งหมด ส่วนพระกรุตอนหน้าจะเป็นพิมพ์ไหน เนื้อหาจริงแท้เป็นอย่างไร เดี๋ยวเรามาติดตามกันครับ วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น