สำหรับพระเนื้อดำของหลวงพ่อสงวนที่จะนำเสนอในวันนี้นั้น มวลสารจะแตกต่างไปจากพระเนื้อแดง ซึ่งพระเนื้อดำนั้น พบว่ามวลสารค่อนข้างจะคล้าย หรือ เหมือนกับพระเนื้อน้ำตาลค่อนข้างมาก หากแต่มีมวลสารเข้มข้นมากกว่า และ อีกอย่างที่สำคัญคือ พบว่า พระเนื้อแบบนี้ มักจะมีทองปิดมาด้วย ซึ่งเรื่องทองคำเปลวที่ปิดนั้นคงจำกันได้ ที่ผมเคยกล่าวไว้ในตอนก่อนๆแล้วว่า เป็นทองที่หลวงพ่อสงวนท่านปลุกเสกไว้ ลุงสุดได้เล่าให้ฟังว่า เหตุที่พระของหลวงพ่อสงวนมีสีดำนั้น เกิดจาก ผงใบลาน ที่ท่านทำการเผาแล้วนำมาผสมในเนื้อพระ สีนั้นมิได้เกิดจากการใส่สีลงใป แต่เป็นสีดำของเถ้าใบลาน อีกทั้งแทบทุกองค์ยังได้รับการปิดทองคำเปลวเสกลงไปด้วย ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้พระเนื้อสีดำนี้จึง มีพุทธคุณโดดเด่นแปลกแตกต่างไปจากพระเนื้ออื่นชัดเจน วันนี้เราไปพบกับตัวอย่างพระเนื้อแบบนี้กันดีกว่าครับ

พระพิมพ์นี้เนื้อนี้แหละครับ ที่ได้รับเสียงยืนยันจากผู้ใช้ส่วนใหญ่ว่า พุทธคุณ"แรง"เป็นอันดับหนึ่ง ในบรรดาพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ

พระเนื้อดำนี้นอกจากมวลสารของพระจะเข้มข้นกว่าพระเนื้ออื่นๆแล้ว ยังได้แรงบวกจากผงใบลาน และ ทองคำเปลวเสกอีก

พระพิมพ์นี้มีอีกโทนสีหนึ่ง เป็นสีเทาดำ ซึ่งคนมักเข้าใจผิดว่า เป็นคนละสี จริงๆ จากที่สังเกตุพระเนื้อสีเทาดำ ก็คือพระเนื้อสีดำนั่นเองครับ เพียงแต่ มีดอกรา หรือ คราบสีขาวๆ ขึ้นปรากฏไปทั่ว ทำให้สีดำจางลงกลายเป็นสีเทาดำ

ลองเทียบกับองค์สีดำสนิทข้างบนนะครับ จะพบว่า องค์สีดำสนิทนั้น จะไม่มีราหรือ คราบสีขาวที่ว่า

เนื้อนั้น เป็นแบบเดียวกันแน่นอนครับ สังเกตุผลึกสีเหลืองอมน้ำตาลเม็ดใหญ่ๆในภาพนะครับ ผลึกแบบนี้จะพบในพระประธานห้าชั้น และ พระสมเด็จแหวกม่านในยุคทุ่งแฝก เนื้อสีน้ำตาลด้วย

พระสมเด็จแหวกม่านหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ยุควัดทุ่งแฝกเนื้อสีดำนี่แหละครับ ที่เคยก่อตำนาน เป็นพระ "เสด็จกลับ" แบบเหลือเชื่อมาแล้ว ในเมื่อเจ้าตัวแกยังไม่ว่างมาเล่าซักที ผมก็ขอถือวิสาสะ ขโมยซีนซักหน่อยแล้วกันนะครับ พี่คนนี้แกมีชื่อว่า "ทิดหอม" เหตุเกิดจาก วันนั้นแกมีงานเลี้ยง เป็นธรรมดาครับที่หนีไม่พ้นเรื่องสุรา พี่แกเกรงใจเจ้านาย ก็เลยต้องร่วมดื่มไปด้วย ทั้งที่พยายามรักษาศีลข้อห้ามาได้ซักระยะหนึ่ง แต่ต้องจำศีลขาด เพราะเกรงใจนาย วันนั้นแกแขวนพระหลวงพ่อสงวนไปพวงหนึ่ง ในพวงนั้น ก็มี พระสมเด็จแหวกม่านยุควัดไผ่ หลังจารยันต์ตรีนิสิงเห พระพิมพ์หลวงพ่อปานขี่ครุฑ พระสมเด็จแหวกม่านทุงแฝกเนื้อดำ พระสมเด็จข้าวทิพย์(พระคำข้าว) พระคำข้าวหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เท่าที่จำได้คงเท่านี้กระมังครับ พี่แกไม่อยากใส่พระดื่มเหล้า ก็เลยถอดเก็บไว้ในกระเป๋าสะพาย หลังจากงานเลิกแกก็นั่งแท็กซี่เดินทางกลับบ้านที่สมุทรปราการ แต่ด้วยความเมาพอขึ้นรถปั๊บพี่แกก็หลับไปแบบสลบสไล มารู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่า ตัวเองอยู่ที่สถาณีตำรวจ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น สน.สำโรงนะครับ ถามไถ่เจ้าหน้าที่ได้ความว่า แทกซี่พาแกมาปล่อยไว้ แกรีบถามหากระเป๋าสะพายคู่กายทันที พบว่า ตำรวจที่อยู่เวรเก็บไว้ให้ แต่อนิจจา ของทุกอย่างแกอยู่ครับ ขาดแต่ พระพวงสำคัญที่ อันตระธานไปเรียบ ขอเล่าแบบรวบรัดแล้วกันนะครับ แกพยายามติดตามหาจากคนขับแทกซี่ และ ตำรวจแถวนั้นแทบทุกวัน แต่ก็ไร้วี่แวว หลังจากนั้นผ่านไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ ก็มีตำรวจนายหนึ่ง อยู่คนละสน.กับที่เกิดเหตุนะครับ ไกลกันพอสมควร มาติดต่อราชการที่ศาลที่แกอยู่ โดยมาพบผู้พิพากษาท่านหนึ่ง ซึ่งผู้พิพากษาท่านนี้ได้ขอเช่าพระองค์หนึ่งจากตำรวจนายนั้นในราคาหนึ่งพันบาท ( ถูกน่าอิจฉาจริงๆ ) ผู้พิพากษาท่านนี้เป็นคนที่สนใจเรื่องพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมืออยู่แล้ว จึงนำพระมาถามพี่ทิดหอมแก ว่าแท้หรือไม่ พอผู้พิพากษายื่นพระองค์นั้นมาให้ดู ทำให้แกแทบช็อค เพราะนั่นคือ พระสมเด็จแหวกม่านทุ่งแฝกเนื้อสีดำ องค์ของแกที่หายไปนั่นเอง เทียบรูปถ่ายทุกจุดทุกมุม ก็ไม่มีผิดเพี้ยน พอผู้พิพากษารู้ว่า เป็นพระของแกก็เลยยกให้ โดยไม่คิดมูลค่า ... เป็นไปได้อย่างไรที่พระซึ่งหายคนละมุมเมืองของกรุงเทพฯ จู่ๆกับเดินทางกลับมาหาเจ้าของถึงโต๊ะที่ทำงาน ทั้งที่ตามหาแทบพลิกแผ่นดิน และ โดยปกติแล้วผู้พิพากษาท่านนี้ก็ไม่ค่อยได้คุยกับแกเท่าใดนัก ซึ่งผมให้ความเห็นไปว่า คนกรุงเทพฯสิบกว่าล้านคน โอกาสแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ ...คงต้องใช้คำว่า "ปาฏิหารย์" โดยแท้ ที่สำคัญก็คือ พระองค์นี้ "เสด็จกลับ" มาแค่องค์เดียวครับ องค์อื่นในพวง หายเข้ากลีบเมฆ ไม่มีข่าวคราวจนบัดนี้ เรื่องนี้คงพอรับประกันความแรงของพระพิมพ์นี้ได้เป็นอย่างดี เอาไว้ให้เจ้าตัวเค้าเล่าให้ฟังอีกทีแล้วกันนะครับ เพราะผมอาจจะจำได้ไม่ละเอียดนัก ฟังประสบการณ์อันน่าอัศจรรย์แล้วก็ไปพบกับพระพิมพ์อื่นๆกันต่อดีกว่านะครับ

ด้านหลัง มีแปะทองเสกด้านหลังมาด้วย องค์นี้ผมชอบแขวนเดี่ยวไปเวลาต้องการความคล่องตัวไม่อยากพกพระเยอะๆครับ และ ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง

พระสมเด็จคะแนนหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือเนื้อดำ

ด้านหลังจารยันต์องค์พระ เห็นเล็กๆแบบนี้ อย่าดูถูกนะครับ แรงไม่แพ้รุ่นใหญ่เลยล่ะ

พระสมเด็จสามชั้นหูบายศรี หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือเนื้อดำ

มวลสารหยาบๆแบบนี้ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่า เป็นพระยุคต้นๆวัดทุ่งแฝกแน่นอน พระองค์นี้ถึงไม่มีทองปิดมาด้วย แต่ก็พบเนื้อทองเสกปะปนอยู่ทั่วไปในเนื้อพระ สังเกตุผลึกสีเขียวๆนะครับ ผลึกแบบนี้ เจอในพระหลวงพ่อสงวน ยุคต้นๆหลายๆพิมพ์

วันนี้ เอาพอหอมปากหอมคอกันก่อนนะครับ ตอนหน้ามาดูตัวอย่างพระเนื้อดำของหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือพิมพ์อื่นๆกันต่อไปครับ ขอทุกๆท่านที่ติดตามอ่านเวบบล๊อคนี้ จงประสบแต่ความสุข ร่ำๆรวยๆกันทุกคนนะครับ สวัสดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น