18 สิงหาคม 2552

หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ : รูปถ่ายไม่ใช่จุดตายที่ชี้ว่าพระแท้ไม่แท้

สวัสดีครับ ขออนุญาตกลับมายึดบอร์ดคืนชั่วคราวนะครับ เนื่องจากท่านเซียนเรื่องผง แจ้งมาว่า ช่วงนี้เน็ตไม่ค่อยดี อัพโหลดข้อมูลยังไม่ได้ และ ต้องการตรวจทานข้อมูลอีกสักหน่อย เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ไม่มีข้อผิดพลาด ( หาข้ออ้างไปได้เรื่อยเลยนะพี่ท่าน อย่าอู้นานนักนะครับ ) ผมก็เลยขออนุญาตคั่นรายการหน่อยแล้วกันครับ บังเอิญว่า เมื่อเช้าได้เดินทางเข้าไปในตัวเมืองอยุธยา เลยแวะเยี่ยมตลาดพระเครื่องหน้าวังซะหน่อย บังเอิญไปเจอพระเครื่องหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ อยู่ร้านหนึ่ง มีพิมพ์หลวงพ่อปานขี่ไก่ หลังปั้มว่า ไผ่พันมือ อีกองค์เป็นพระขุนแผน ด้านหลัง ติดรูปหลวงพ่อสงวน หน้าหนุ่มขาวดำ ซึ่งพระทั้งสององค์เขาวางคว่ำหน้าลง หันด้านหลัง ที่มีตราปั้มกับ รูปถ่าย ขึ้นมาเพื่อให้เข้าใจทันทีว่า เป็นพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ผมลองหยิบมาส่องดู พบว่า เดี๋ยวนี้เค้าพัฒนาไปไกลครับ เค้ารู้ว่า เนื้อขาวๆวอกๆ ไม่อาจหลอกคนได้อีกต่อไปแล้ว ( แผงนี้เคยขายของหลวงพ่อสงวน แบบเก๊ตาเปล่าประจำ ) คราวนี้เลยกลับมามาดใหม่ เอาพระที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกับหลวงพ่อสงวน มาติดรูปแท้ๆ และ ตราปั้ม ที่ยังคงพยายามปั้มหมึกสีน้ำเงินทับหมึกแดง เพื่อให้ดูเก่า มือใหม่ที่ดูเนื้อไม่ขาด ไปเห็น เสร็จแน่ๆครับ ไม่มีรูปประกอบนะครับ ขืนผมไปยืนถ่ายรูปหน้าร้านเค้า มีหวังไม่มีโอกาสกลับมาบอกกล่าวกับแฟนๆเป็นแน่

เส้นเกศา หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ

Khunpannoi


ที่ผมอยากจะบอกคนที่ศรัทธา หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ให้ทราบก็คือ อย่าไปให้ความสำคัญของรูปที่ติดด้านหลังองค์พระ มากไปกว่า เนื้อพระ และ พิมพ์พระเป็นอันขาด มีไม่น้อยครับ ที่เค้าติดรูปเพื่อให้ดูว่า พระนั้นเป็นพระหลวงพ่อสงวน ทั้งที่พระองค์นั้นไม่ใช่ท่านสร้าง ควรดูลักษณะรูปด้วยว่า รูปกับ พระไปด้วยกันหรือเปล่า คราบกาวเป็นไงบ้าง ซึ่งบอกตามตรงว่า บางทีก็แยกแยะยาก บางครั้งคนขายเค้าอาจจะเห็นว่า พระแท้ทำยังไงก็ขายได้ ก็แกะรูปออก แล้วไปหาพระเกจิอื่นที่เนื้อหาดูคล้าย แล้วแปะรูปเข้าไป แค่นี้ก็ขายพระได้หวานๆอีกองค์แล้วล่ะ ดังนั้น รูปจึงไม่ใช่ข้อยุติ ที่จะบอกว่า พระองค์นั้นเป็นของหลวงพ่อสงวน หรือเปล่านะครับ

วัตถุมงคลของหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ

Khunpannoi

ภาพด้านบนนี้เป็นของลุงสุดนะครับ มีพระพิมพ์แปลกตาคือ พระพิมพ์สองพี่น้องด้านล่างขวา สวยดีครับ


ผมเตือนมือใหม่ และ ผู้ที่ศรัทธาหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ อยู่เสมอๆนะครับว่า พยายามเล่นหา พระหลวงพ่อสงวน ในแบบเนื้อหา และ พิมพ์มาตรฐานดีกว่านะครับ เพราะท่านยังดูพระไม่ขาด อาจโดนพระยัดวัดเข้าง่ายๆ กฏสำคัญที่ยังใช้ได้ทุกยุคทุกสมัยก็คือ "อย่าเล่นพระด้วยหู" ให้ดูและพิจารณาใช้วิจารณญาณด้วยตัวท่านเองครับ อย่าไปเชื่อ เพราะไว้ใจว่า คนขายเล่นหามาก่อนเรา เป็นเซียน เป็นมือดูพระหลวงพ่อสงวนชั้นเทพ โดยเฉพาะนิยายประกอบต่างๆ ของคนขายที่ไร้คุณธรรมจะทำให้ท่านเจ็บตัวได้ง่ายๆ คนระยำยังไงมันก็ระยำวันยังค่ำน่ะแหละ อย่าไปเชื่อใครมาก ที่พูดนี่ไม่ได้เจาะจงใครเป็นพิเศษนะ พูดให้ฟังทั่วๆไป ใช้วิจารณญาณของท่านเอง เป็นดีที่สุดนะครับ แม้แต่เรื่องที่ผมเขียนในบล๊อคนี้ ก็ใช้วิจารณญาณของท่านด้วยก็แล้วกัน

พระสมเด็จสามชั้น หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ของลุงสุดอีกเช่นกันครับ

Photobucket

ด้านหลัง เห็นองค์ด้านซ้ายขาวๆแบบนั้น เป็นที่การถ่ายภาพ อย่าไปคิดว่าเก๊ล่ะ

Khunpannoi


ข้อมูลช่วงหลังๆของผมส่วนใหญ่จะอ้างอิงจากลุงสุด และ คนที่เคยสัมผัสกับหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ เป็นหลักนะครับ สำหรับลุงสุดคือ ผู้ที่ใกล้ชิดหลวงพ่อสงวน มากที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งแกอยู่กับหลวงพ่อสงวน มานานถึง 46 ปี และไปช่วยงานหลวงพ่อที่วัดเกือบทุกวันมิได้ขาด ทั้งการสร้างพระ และ ปลูกสมุนไพรต่างๆ ลุงสุดจึงเป็นคนที่มีข้อมูลเรื่องพระ และ เรื่องราวของหลวงพ่อสงวนมากที่สุดคนหนึ่ง

พระสมเด็จสามชั้น พระพิมพ์ก้างปลา พระคะแนน หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ

Khunpannoi

ด้านหลังติดรูปสีทุกองค์ สวยงามดีครับ

Khunpannoi

เส้นเกศา หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ที่ลุงสุดเก็บรักษาไว้

Khunpannoi


โปรดสังเกตุว่า เส้นเกศาของท่าน รวมกลุ่มขมวดกันเป็นก้อนกลม ซึ่งลักษณะของเส้นเกศาแบบนี้ เชื่อกันว่า จะเกิดขึ้นเฉพาะกับ พระอริยเจ้าผู้มีคุณธรรมสูงส่งเท่านั้น ลักษณะเส้นเกศาของหลวงพ่อสงวน ที่ปรากฏแบบนี้ก็พึงสังวรณ์กันหน่อยก็แล้วกัน สำหรับคนที่คิดจะปรามาสท่าน เดี๋ยวนรกจะถามหากันซะเปล่าๆ ส่วนใครที่ทำไม่ดีกับท่านไว้ หากชีวิตมันตกต่ำ มีแต่เรื่องลำบาก และ เดือดร้อนเนื้อร้อนใจ ก็โปรดสังวรณ์ไว้ด้วยแล้วกัน ว่าคุณได้ทำกรรมอันระยำอันไดไว้กับชาวบ้าน รวมถึงกับวัดไผ่พันมือ และ หลวงพ่อสงวนท่านบ้าง กรรมใดใครก่อ คนนั้นก็รับผลกรรมนั้นไปครับ กรรมใครก็กรรมมัน วันนี้มาบ่นให้ฟังกันเหงากันนะครับ เป็นติดตามอ่านกันไม่ลดละ ก็เกรงใจ เลยแวะมาคั่นเวลาให้หน่อย เอาไว้พบกับ เรื่องราวของผงหลวงพ่อสงวน จากนักเขียนหน้าใหม่ของเราอีกทีแล้วกันนะครับ สวัสดีครับ

09 สิงหาคม 2552

การดูพระหลวงพ่อสงวน ตอนที่ 26 : สมเด็จข้าวทิพย์ ตอนจบ

สวัสดีกันอีกครั้งนะครับมิตรรักแฟนเพลง ( คำทักทายนี่ฟ้องอายุเลยนะ ) กลับมาพบกับเรื่องราวของสมเด็จข้าวทิพย์ หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ตอนจบกันนะครับ คราวที่แล้วเราคงได้ทราบกันไปแล้วว่า กว่าที่หลวงพ่อสงวน ท่านจะทำพระได้หนึ่งองค์นั้น ท่านต้องใช้ความวิริยะอุตสาหะเพียงใด ( แค่ลบผงแต่ละอย่างนี่ก็สุดๆแล้วล่ะ) และ ผงแต่ละอย่างที่ท่านทำนั้นมีแต่ผงที่สุดยอดมาก จากเดิมที่เข้าใจกันผิดๆต่อๆกันมาว่า ท่านใช้แต่ผงอิทธิเจเท่านั้นเป็นหลัก ( ใครเป็นคนเริ่มหว่า สงสัยอยู่เหมือนกัน ) ซึ่งถ้าเทียบแค่ผงมหาราชพิสดาร และ ผงพุทธนิมิตรแล้ว ผงอิทธิเจนี่จิ๊บๆไปเลย แค่ผงพุทธนิมิตร กว่าจะลบได้ครบบทอิติปิโส รัตนมาลา ก็ 56 รอบล่ะครับ แต่ละรอบก็ยาวใช่เล่น ผงปถมังแฝด นี่ก็คงถูกอกถูกใจสายเหนียวเป็นที่สุด เอาไว้รอท่านผู้รู้ท่านเขียนให้อ่านเป็นวิทยาทานแล้วกันนะครับ ( ทวงต้นฉบับหน้าเวบกันเลยนะครับ อย่าอู้ล่ะท่าน )

จากที่กล่าวมา ก็คงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมพี่หนุ่มเมืองแกลง แกถึงใช้ พระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ใส่ตลับแทนพระสมเด็จวัดระฆัง เห็นแต่ละผงที่ท่านใช้แล้ว ครบเครื่องจริงๆ มิน่าเล่า หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ท่านถึงได้ยกย่องหลวงพ่อสงวนนักหนาว่า "หลวงพ่อสงวนท่านทำผงเก่ง" โปรดสังเกตุนะครับ หลวงพ่อแพท่านบอกว่า หลวงพ่อสงวนท่านทำผงเก่ง ไม่ใช่ "หลวงพ่อสงวน(แค่)ทำผงอิทธิเจเก่ง" และ ด้วยเหตุนี้กระมัง ถึงทำให้ไม่มีใครสามารถสืบทอดวิชาของท่านได้ ก็มันยากจริงๆนินา เอาไว้รออ่านแล้วกันนะครับ แล้วจะอึ้งเหมือนผม

มาต่อเรื่องพระคำข้าว หลวงพ่อสงวนกันต่อดีกว่า เดี๋ยวปิดตอนไม่ได้ ตั้งแต่ได้พระคำข้าวพิมพ์สมเด็จแหวกม่านยุคต้นมา ซึ่งเป็นเสมือนจิ๊กซอว์ที่สำคัญ ทำให้สามารถเชื่อมโยงเนื้อพระและพิมพ์ที่สำคัญได้ว่า แท้จริงแล้วยังมีพระที่มีมวลสารของพระคำข้าวเป็นส่วนประกอบอยู่อย่างมากมาย ซึ่งพระเนื้อที่ว่า ก็มิใช่พระแปลกตาที่ไหน ก็คือ พระที่หลายๆคนติว่า ไม่สวย และมองข้ามไปหมด เรียกว่า ไม่ค่อยเก็บกันล่ะ มาดูกันครับว่า พระคำข้าว รุ่น Transformer นั้นมีพิมพ์ไหนกันบ้าง องค์แรกก็คือ พระสมเด็จแหวกม่านยุคต้น เนื้อสีขาวนั่นเอง

พระสมเด็จแหวกม่านยุคต้น หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ

Khunpannoi


ลองเปรียบเทียบกันดูดีๆนะครับ จะเห็นว่า พระทั้งสององค์นั้น มีส่วนที่คล้ายคลึงกันอยู่มาก แม้จะไม่เหมือนกันซะทีเดียว โดยเฉพาะพิมพ์และเนื้อ พระองค์ซ้ายนั้น เนื้อยังมีให้เห็นชัดเจนว่า ประกอบด้วยเนื้อพระคำข้าว original ซะส่วนเป็นส่วนใหญ่ ( ชักภาษาปะกิดเยอะล่ะ ) ส่วนองค์ซ้ายนั้น แม้จะแตกต่างออกไป แต่ท่านคงจะสังเกตุลักษณะบางอย่าง ที่ผมเคยได้บอกไปตอนก่อน ว่า พระสมเด็จยุคต้นเนื้อขาวโดยทั่วไปนั้น เนื้อพระค่อนข้างจะยับย่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญอันหนึ่งของพระคำข้าว ซึ่งค่อนข้างหนืด ทำให้มวลสารไม่กระจายตัวได้ดีเช่นพระเนื้อผงอื่นๆ

พระสมเด็จแหวกม่านยุคต้น หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ เนื้อสีขาว

Photobucket

ด้านหลังนั้น มวลสารแตกต่างไปอย่างชัดเจน แต่ก็ยังเห็นความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง

Khunpannoi

จากการสังเกตุ พบว่า เนื้อพระสมเด็จแหวกม่านยุคต้น เนื้อสีขาวนั้น มีเนื้อเหมือนเจลใสๆ กระจายอยู่ทั่วๆไป โดยเฉพาะ เมื่อส่องดูด้านข้างองค์พระจะเห็นชัด เมื่อลองขยายดู ก็พบหลักฐานสำคัญว่า แท้จริงแล้ว เนื้อเจลใสๆ นั้นก็คือ เนื้อข้าวทิพย์บด ลักษณะเดียวกับ พระคำข้าวเนื้อละเอียดนั้นเอง

Khunpannoi


ลองสังเกตุภาพด้านบนดูดีๆนะครับ ที่จะยังเห็น ข้าวทิพย์สีเหลือง ที่ยังบดไม่ละเอียด เชื่อมโยงเป็นเนื้อเดียวกันกับส่วนที่บทละเอียด และ กระจายหายเข้าไปผสมเป็นเนื้อเดียวกันกับองค์พระ ถ้าท่านมีพระพิมพ์นี้ ลองหยิบมาส่องดูนะครับ นี่ล่ะ ของดีที่หลายคนมองข้ามกันนักหนา ( หากไม่ดีจริง หลวงพ่อสงวน ท่านคงไม่ทำเป็นพระพิมพ์นี้หรอก จริงมะ บอกแล้วว่า พระพิมพ์แหวกม่านยุคต้นนั้น แต่ละเนื้อนี่สุดๆกันทั้งนั้น ) ใครที่เคยปฏิเสธพระไม่สวยแบบนี้ไป ก็ขอแสดงความเสียใจมา ณ ที่นี้ด้วยแล้วกันนะครับ มาดูองค์ต่อไปดีกว่า องค์นี้ก็ยังเป็นพระเนื้อขาวยุควัดทุ่งแฝกอีกเช่นกัน

พระขุนแผนพิมพ์ทรงพลใหญ่ หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ เนื้อสีขาว

Photobucket


พระองค์นี้ น่าจะถอดพิมพ์มาจาก พระขุนแผนวัดบ้านกร่าง พิมพ์ทรงพลใหญ่นั่นเอง สังเกตุจาก พิมพ์ที่ชัดตื้นมากกว่า องค์นี้ถ้าสังเกตุให้ดีจะพบว่า ที่พระกรด้านซ้ายขององค์พระนั้น มีการแกะพิมพ์เพิ่มเป็นรูปกุมารขึ้นมา กลายเป็นพระขุนแผนอุ้มกุมาร ด้านหลังองค์พระ มวลสารเนื้อหา ดูง่าย ว่าเป็นพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ จริงแท้ร้อยเปอร์เซนต์

Khunpannoi

เมื่อลองดูรายละเอียดขององค์พระดีๆ ก็พบกลุ่มเนื้อใสเช่นเดียวกับพระคำข้าวอยู่ทั่วๆไป ลองขยายดูที่องค์กุมารนะครับ

Khunpannoi

ที่พระกรขวาก็เช่นเดียวกัน เนื้อชัดเจนขนาดนี้คงไม่ต้องสงสัยว่า เป็นเนื้อพระชนิดใด

Khunpannoi

เนื้อพระใสๆนั้น บางส่วนที่บดไม่ละเอียด ยังเห็นชัดเจนครับว่า เป็นเม็ดข้าวสิเหลืองนั่นเอง และ เม็ดสีเหลืองขนาดใหญ่เพียวๆแบบนี้ก็เป็นหลักฐาน สำคัญอีกชิ้นหนึ่ง

Khunpannoi

ดูกันชัดๆอีกทีครับ จะเห็นว่า เนื้อพระถ้าตัดส่วนสีขาวออกไปแล้ว ก็คือ เนื้อพระคำข้าว หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ดีๆนี่เอง

Khunpannoi

ลองเปรียบเทียบกับองค์ออริจินอลหน่อย ลองตัดเนื้อสีขาวออกแล้วเทียบกันดูนะครับ

Khunpannoi


พระองค์สำคัญของหลวงพ่อสงวนอีกองค์หนึ่ง ที่ผมเองเคยเข้าใจผิดว่า เป็นพระเนื้อแก่ผงน้ำมัน ด้วยลักษณะเนื้อพระนั้นค่อนข้างเหมือนเจลใส แต่วันนี้ ความจริงก็ปรากฏแล้วครับ เนื้อพระพิมพ์ที่ว่านั้น ก็คือ เนื้อพระคำข้าวดีๆนี่เอง เพียงแต่ใส่สีให้เป็นสีเขียวเท่านั้น คงจำกันได้นะครับ องค์ 81 ที่ผมเคยเล่าให้ฟังในตอนก่อนนั่นเอง ดูกันชัดๆนะครับ นี่คือ พระคำข้าว รุ่น Tranformer อีกองค์อย่างไม่ต้องสงสัย

Khunpannoi


มิน่าเล่า ท่านถึงดลบันดาลให้หวยออก 81 , 18 ได้ถึงสี่งวดซ้อน ( ลองกับไปอ่านตอนก่อนๆดูนะครับ ) ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันอย่างหนึ่งว่า พระคำข้าว หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ นั้น เด่นสุดๆในทางใด แต่แน่นอนครับ ถึงลาภจะเด่นปานนี้ เรื่องเมตตาก็ไม่น้อยหน้าพระเนื้ออื่นๆก็แล้วกัน

ครับ..ผมคงขอจบเรื่องราวของสมเด็จข้าวทิพย์แต่เพียงเท่านี้ ตอนหน้า มาพบกับ เรื่องราวความสำคัญของผงต่างๆ ที่หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ท่านใช้ในการทำพระแล้วกันนะครับ แล้วท่านจะอึ้งเหมือนกับผม และ จะไม่แปลกใจเลยว่า เหตุใดพระหลวงพ่อสงวน ถึงได้แรงนักแรงหนา เอาไว้พบกันกับนักเขียนหน้าใหม่ของบล๊อคเรานะครับ ( ถ้าแกอู้ก็ช่วยกันจุดธูปแช่งแกหน่อยนะครับ ) วันนี้ผมขอลาไปก่อน สวัสดีครับ

เกี่ยวกับฉัน