หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ : เหตุแห่งความแรงของพระหลวงพ่อสงวน

สวัสดีครับ ห่างหายไปหลายวัน ก็กลับมาพบกับเรื่องราวของหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมืออีกครั้งนะครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ส่งกันมาให้ทางอีเมล์ครับ มีเสียงเรียกร้องว่า ตอนกว่าจะมาเป็นขุนแผนน้อยนั้น จบเร็วเกินไปหน่อย ยังฟังไม่จุใจ อยากฟังเกี่ยวกับเรื่องการทำงาน และ ค้าขายบ้าง รวมทั้งภาพเจ้าปลัดตัวเล็กที่ผมมิได้เคยโชว์ที่ไหน เอาไว้เดี๋ยวจะลงให้ฟังแล้วกันนะครับ

เมื่อวานได้มีโอกาสแวะเข้าไปที่วัดไผ่พันมือ เห็นว่า วัดกำลังจะมีการก่อสร้างหอระฆังใหม่ครับ มีเจ้าภาพซึ่งเป็นลูกศิษย์เก่าแก่ของหลวงพ่อสงวน เป็นนายทหารอากาศซึ่งเกษียรอายุราชการไปแล้ว บอกว่า ฝันเห็นหลวงพ่อสงวน ท่านบอกว่า อยากได้หอระฆัง แกก็เลยมาขอเป็นเจ้าภาพจัดสร้างให้ จะมีพิธีทางสงฆ์วันเสาร์นี้นะครับ ขออนุโมทนาด้วยเป็นอย่างสูง สำหรับการก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ครอบของเดิมนั้น ทางวัดก็ยังขาดปัจจัยอยู่เป็นจำนวนมาก ใครมีจิตศรัทธาก็ขอเชิญบริจาคได้ที่วัดไผ่พันมือนะครับ

ได้มีโอกาสแวะเยี่ยมป้าฉัตรกับลุงสุดอีกครั้งหนึ่ง ได้พูดคุยถึงเรื่องราวต่างๆของหลวงพ่อสงวนมากมาย วันนี้ก็เลยเอาเรื่องราวการทำพระของหลวงพ่อสงวนมาฝากแล้วกันนะครับ ซึ่งลุงสุดได้เล่าในตอนหนึ่งว่า ในการทำพระของหลวงพ่อสงวนนั้น ท่านจะทำการเขียนผงและลบผงด้วยตัวท่านเองคนเดียวทั้งวัน จะไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งเลย เวลาหลวงพ่อท่านเขียนผง ก็จะท่องคาถางึมงัมๆได้ยินกันไปทั่ว เมื่อลบผงได้แล้วท่านก็จะเก็บไว้ เพื่อจะนำมาผสมกับมวลสารที่ท่านไปหามาด้วยตัวท่านเองในการทำพระและลูกอมอีกที

สำหรับมวลสารต่างๆนั้น ป้าฉัตรกับลุงสุด และ ลูกศิษย์คนอื่นๆเล่าไว้ตรงกันว่า หลวงพ่อสงวน ท่านจะไปเสาะแสวงหาด้วยตัวของท่านเอง ในช่วงที่กำลังวังชาท่านยังดี ท่านชอบหายไปเป็นเวลาหลายๆวัน แล้วก็จะกลับมาพร้อมกับมวลสารต่างๆที่ใช้ทำพระ และ ลูกอม โดยเฉพาะ ดิน ว่านต่างๆ และ แร่สะเก็ดดาวที่ใช้ทำพระนั้น ทราบว่า ส่วนใหญ่ท่านจะไปเอามาจากกาญจนบุรี

การที่หลวงพ่อสงวน ท่านไปเก็บของต่างๆมาด้วยตนเองนั้น ย่อมบอกเป็นนัยน์อยู่แล้วว่า มวลสารต่างๆของท่านแต่ละอย่างที่ท่านไปเอามานั้น ย่อมต้องมีความสำคัญและมีความพิเศษในตัวเองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องผ่านกรรมวิธี ในการเก็บตามหลักวิชาเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาสามัญจะทำได้เลย ทำให้หลวงพ่อท่านต้องไปเก็บด้วยตนเอง โดยเฉพาะดินที่ใช้ทำพระนั้น หลวงพ่อสงวนท่านจะเจาะจงไปเอาที่เมืองกาญจน์เท่านั้น แสดงว่า ดินที่นั่นต้องไม่ใช่ดินธรรมดาสามัญทั่วๆไป จะต้องมีความพิเศษและความสำคัญอย่างใดอย่างหนึ่ง มิเช่นนั้นหลวงพ่อสงวน ท่านคงมิต้องดั้นด้นเจาะจงไปเอาด้วยตัวเองถึงเมืองกาญจน์ จึงไม่น่าแปลกใจว่า เหตุใด พระ และ ลูกอม หรือ ลูกประคำ ที่เป็นเนื้อดินทั้งหลายนั้น จึงแสดงพุทธคุณที่โดดเด่นเป็นที่ร่ำลือถึงความแรงกันมากมาย ดินนี้มีความพิเศษอันใดหนอ? เหตุใดหลวงพ่อสงวนท่านจึง ไม่ใช้ดินใกล้ๆตัว เฉกเช่นทั่วๆไป ซึ่งหาได้ง่ายกว่า น่าคิดนะครับ

สำหรับว่านต่างๆเองก็เช่นกัน เอาแค่ว่านเครือเขาหลง ซึ่งพบเจอในสีผึ้งของท่านบ่อยๆนั้น กรรมวิธีในการเก็บก็สลับซับซ้อนอยู่ไม่น้อย คนที่ไม่มีวิชา ทำไม่ถูก ไม่มีทางที่จะเก็บมาได้ เป็นได้หลงป่าหาทางออกไม่เจอเป็นของแถมอีกด้วย เรียกว่า มีสิทธิ์อดข้าวตายในป่าได้เลย ไม่รวมถึงว่านชนิดอื่นๆ ที่ต้องมีกรรมวิธี และ วิชาในการเก็บเฉพาะตัว ซึ่งตอนเก็บก็ต้องมีพิธีกรรม และ การว่าคาถาอาคมต่างๆกันมากมาย เก็บไม่ดี พลีไม่ถูกต้อง มีสิทธิถูกเจ้าของที่เขาดูแลอยู่เล่นงานเอาถึงตาย หรือ เสียสติไม่เป็นผู้เป็นคนเอาได้ง่ายๆ

จากที่ได้กล่าวมา คงพอมองเห็นกันแล้วนะครับว่า หลวงพ่อสงวน ท่านพิถีพิถัน และ ละเอียดละออในการสร้างพระขนาดไหน จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมพระในยุคทุ่งแฝก และ ยุคต้นวัดไผ่ ซึ่งอุดมไปด้วยมวลสารมากมายนั้น ถึงได้มีประสบการณ์จากผู้ใช้ถึงความแรงที่บอกกันปากต่อปากเป็นที่ต้องการของสายตรงกันนัก ซึ่งในช่วงหลังๆ นั้นทราบว่า หลวงพ่อท่านจะปลูกว่านต่างๆไว้เองในวัด รวมทั้งดอกไม้ต่างๆ และดอกไม้ที่ชาวบ้านเอามาบูชาพระ หลวงพ่อสงวนท่านก็จะเก็บไว้ทำเกสรดอกไม้ร้อยแปด ผสมลงในเนื้อพระเช่นกัน

วันนี้ก็นำเอามาฝากกันแค่หอมปากหอมคอนะครับ คงได้เห็นถึงสาเหตุแห่งความแรงของพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ กันแล้ว คงพอเข้าใจกันแล้วนะครับว่า ทำไมพระเนื้อดินทั้งหลาย พระเนื้อว่านต่างๆ และ พระยุคลึกๆ จึงเป็นที่ต้องการของเซียนสายตรงกันนัก ใครมีประสบการณ์ดีๆ ก็มาแชร์กันได้นะครับ จะได้ช่วยๆกันเผยแพร่เกียรติคุณของหลวงพ่อสงวน ให้เป็นที่รู้จักกันมากยิ่งขึ้น วันนี้ขอลาไปก่อนนะครับ เอาไว้พบกันใหม่ตอนหน้าครับ สวัสดีครับ

หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ : หลักฐานประสบการณ์สำคัญ

วันนี้ก็นำสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ผมติดค้างไว้คราวก่อนมาให้ดูนะครับ ภาพนี้ถ่ายจากมีอถือโนเกีย 7270 ไม่ค่อยคมชัดเท่าไหร่ครับ แค่คงพอมองออก ไม่มีการตกแต่งเพิ่มเติมประการใดครับ นอกจากการลดขนาดลงเพียงแค่นั้น

สลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ได้โชคจากพระสมเด็จสามชั้น หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือครับ



ดูด้านหลังพระสมเด็จสามชั้น หลวงพ่อสงวน ชัดๆอีกครั้งนะครับ



จะเห็นว่า รอยเขียนนั้นเหมือนใช้เหล็กเผาไฟเขียนมาแต่เดิม ไม่มีการเขียนใหม่แต่ประการใด และรอยใหม้แนวนอนนั้นอยุ่ใต้ภาพหลวงพ่อสงวน ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่า รอยนี้เกิดก่อนการติดภาพหลวงพ่อสงวนนั่นเอง

จากประสบการณ์แล้ว พบว่า พระของหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ นั้น มิได้เด่นแค่ทางเมตตาอย่างเดียว แต่ยังเด่นในเรื่องโชคลาภ หรือ การทำมาหากินด้วย ลองอธิษฐานดูดีๆนะครับ บางทีท่านอาจจะมีโชคบ้าง สำหรับผม บางคนอาจจะบอกว่า แหม..แค่ถูกรางวัลเลขท้ายสองตัว ทำมาคุย ก็คงไม่แปลกครับ ถ้าเป็นคนทั่วๆไป แต่กับผมซึ่งซื้อหวยมาไม่รู้กี่สิบปี ไม่เคยถูกรางวัลเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่คราวนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตจริงๆที่ถูกรางวัล เพราะได้โชคจากพระหลวงพ่อสงวนท่าน แถมออกตั้งสี่ครั้งซ้อนๆ แล้วจะให้ผมไม่เรียกว่า มหัศจรรย์ได้ยังไงครับ วันนี้ลากันด้วย ลูกอมหลวงพ่อสงวน ยุควัดไผ่พันมือ สวยๆซักลูกนะครับ

ลูกอมเนื้อมาตรฐาน หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ



ลูกนี้กลมได้สัดสวย สวยดีครับ ดูเนื้อกันชัดๆนะครับ จะได้ชินตากัน



การถูกรางวัลเลขท้ายสองตัวนั้น เป็นเพียงแค่ส่วนประกอบครับ ตั้งแต่ได้พระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ มาบูชา ก็รู้สึกว่า ชีวิตผมเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ ทั้งหน้าที่การงาน และ รายได้ในแต่ละเดือน ถ้าใครถามถึงเคล็ดลับการใช้ให้ได้ผลนั้น ผมว่าขอเพียงเราคิดดีทำดี ตั้งมั่นอยุ่ในศีลในธรรม รักษาสัจจะวาจา ย่อมเป็นเคล็ดลับที่สำคัญที่จะทำให้ท่านใช้วัตถุมงคล หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ได้ผลอย่างที่ตั้งใจ แต่ถ้าใครคิดไม่ดี หรือ นำไปใช้ด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์ ผมกล้ารับประกันว่า ใช้ให้ตายยังไงก็ไม่ได้ผลครับ คงไม่ต้องอธิบายให้มากความนะครับ วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีครับ

การดูพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ตอนที่ 20 พระเนื้อแก่ผงน้ำมันยุควัดทุ่งแฝก

กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับ วันนี้ผมก็มีเรื่องราวของพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ยุควัดทุ่งแฝกมาฝากแฟนานุแฟนกันอีกเช่นเคย สำหรับในตอนนี้ จะมาว่าถึงพระเนื้อแก่ผงน้ำมัน ซึ่งเป็นอีกเนื้อหนึ่งในสมัยยุควัดทุ่งแฝกที่ต้องบันทึกไว้ให้รู้จักกัน สำหรับพระเนื้อแบบนี้ องค์แรกที่ผมได้มาก็คือ พระสมเด็จสามชั้น น่าจะเป็นพิมพ์พระประธานนะครับ ได้มาพร้อมกับพระองค์อื่นๆ ด้านหลังติดรูปถ่ายหลวงพ่อสงวน มาด้วย และด้านข้างๆรูปนั้นก็มีตัวเลข คล้ายกับเอาเหล็กเผาไฟไปเขียนไว้ เป็นเลข 8 และ เลข 1 ซึ่งไม่ได้เขียนต่อกัน ลองดูภาพประกอบแล้วกันนะครับ

พระสมเด็จสามชั้น พิมพ์พระประธาน หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ เนื้อแก่ผงน้ำมัน



ด้านหลัง มีรอยกระดาษติดเนื้อพระมาด้วย และ มีตัวเลขเขียนไว้เป็นเลข 8 และ 1



ลองขยายดูเนื้อ กันชัดๆนะครับ องค์นี้มวลสารจะยังค่อนข้างหยาบ



ดูไปก็เหมือนพระธรรมดาๆองค์หนึ่ง พิมพ์ก็ไม่ได้สวยอะไรมากมาย แต่ประสบการณ์ของพระองค์นี้สิครับที่ทำให้ตกตะลึงกัน พอผมได้รับพระมา หวยงวดนั้น ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นงวดวันที่ 16 พฤษจิกายน 2550 หวยออกตัวบนตรงๆ 81 ผมก็เลยนำพระไปโชว์ในเวบบอร์ดแห่งหนึ่ง ว่าแปลกดี ทำไมหวยออกตรงกับพระองค์นี้ แต่ผมก็ไม่ได้ซื้อ เลยไม่ถูก งวดถัดมา มีน้องคนหนึ่ง นำตัวเลขจากพระองค์นี้ไปซื้อ เค้าไม่รู้จะซื้อเลขอะไรดี เลยกลับเป็น 18 ปรากฏว่า งวดนั้น ออกเลขล่าง 18 ( งวดวันที่ 1 ธันวาคม 2550 ) งวดถัดมาก็ออกตัวล่างอีก 81 ก็ประหลาดดีครับ ทำไมออกแต่เลขนี้ซ้ำๆ แต่ผมก็ไม่ได้ซื้อซักงวด งวดวันที่ 16 มกราคม 2551 ฝันว่า หลวงพ่อมาบอกว่า ให้ซื้อ 81 ผมก็งง อะไรกัน มันออกไปสามงวดแล้ว มันจะมาออกอะไรอีกมากมาย แต่ก็เชื่อท่าน เลยซื้อลองดูคู่หนึ่ง ปรากฏว่า ตัวล่างออก 81 จริงๆครับ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมากๆ มันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เพื่อนผมยังแซวว่า ถ้างวดนี้คุณยังไม่ซื้อ ก็คงออก 81 งวดหน้าอีก เพราะพระองค์นี้ท่านคงรอให้โชคคุณให้ได้ ผมยังถ่ายล๊อตตอรี่คู่นั้นไว้อยู่ครับ แต่อยู่เครื่องคอมพ์อีกเครื่อง ไว้วันหลังจะเอามาลงให้ชม นับว่า ผมเองก็อัศจรรย์ใจไม่น้อย ในชีวิตไม่เคยถูกหวยเลย ก็ได้ครั้งแรกนี่แหละครับ ครั้งที่สอง ก็จากน้ำหอมหลวงพ่อสงวนท่านนี่เอง หากท่านสงสัยว่าที่ผมว่ามานั้นโม้ ก็ลองไปตรวจใบตรวจผลรางวัลที่เวบ glo.or.th ลองดูนะครับ ไม่รู้จะโกหกไปให้ได้อะไรขึ้นมาเหมือนกัน ที่เล่ามาให้ฟังนี้ ก็เพื่อบูชาคุณหลวงพ่อสงวนท่านเท่านั้น สำหรับพระเนื้อแบบนี้ผมมีอีกสององค์ ลองไปชมกันครับ

พระผงสุพรรณ หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ เนื้อแก่ผงน้ำมัน



ด้านหลัง เนื้อหาเป็นแบบเดียวกันกับองค์ข้างบนนั่นแหละครับ



ลองดูเทียบกันครับ



พระสมเด็จสามชั้น พิมพ์พระประธาน หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ เนื้อแก่ผงน้ำมันอีกองค์หนึ่ง





องค์นี้เป็นพิมพ์เดียวกัน เนื้อหาเดียวกัน แต่มวลสารจะค่อนข้างละเอียดกว่า ด้านหลังถึงไม่มีรูปถ่ายติดมาด้วย แต่รอยกระดาษสีน้ำตาลที่ติดอยู่ด้านหลังองค์พระเช่นเดียวกับองค์ 81 ก็เป็นพยานหลักฐานชั้นดีที่บ่งบอกว่า พระองค์นี้น่าจะสร้างในคราวเดียวกัน หรือ ระยะเวลาห่างกันไม่กี่วัน สันนิษฐานว่า หลังจากหลวงพ่อสงวน ท่านแกะพระออกจากบล๊อคแล้ว อาจนำไปผึ่งให้แห้ง บนกระดาษสีน้ำตาลอันนี้ ทำให้เมื่อพระแห้งเลยติดเนื้อกระดาษมาด้วย ก็เป็นจุดน่าสังเกตุอันหนึ่ง

วันนี้ก็คงมีเพียงสั้นๆเพียงเท่านี้ครับ สำหรับผมแล้ว เรื่องหวยออก 81 หรือ 18 สี่งวดซ้อน ยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเหลือเชื่อว่า มันจะเป็นไปได้ แต่คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญสำหรับพระหลวงพ่อสงวน ซึ่งปริศนาว่า ใครกัน ที่เป็นคนใช้เหล็กเผาไฟเขียนเลข 81 ไว้บนหลังพระ ท่านรู้ได้ด้วยหรือ ว่าเลขนี้ ต่อไปจะให้โชคแก่คนเป็นเจ้าของพระ พอผมได้รับพระมา หวยก็ออกเลย เป็นไปได้อย่างไร สำหรับผมเชื่ออย่างสนิทใจว่า คนที่เขียนตัวเลขไว้นั้น จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ของพวกเรา ก็ใครจะไปกล้า ขีดเขียนหลังพระเล่นล่ะครับ นรกจะกินหัวเอา ฤาหลวงพ่อสงวน ท่านจะสามารถล่วงรู้อนาคตล่วงหน้าด้วยญาณอันแก่กล้าของท่าน ท่านจึงได้สลักหลังพระไว้เช่นนี้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ เพราะประสบการณ์ที่มีหลักฐาน และ พยานชัดเจนปานนี้ ผมเองต้องกราบท่านหมดตัวจริงๆ

ก่อนจากกันวันนี้ก็ฝากเตือนกันไว้ซักนิดนึงนะครับ ใครคิดจะเล่นจะหาของลงจารหลวงพ่อสงวน ก็ระวังกันหน่อย รู้สึกรอยจารแปลกๆ จะปรากฏตัวออกมาอยู่บ่อยๆช่วงนี้ ระวังกันซักนิดนะครับ วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีครับ

การดูพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ตอนที่ 19 ( พระเนื้อเขียววัดทุ่งแฝก )

สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกครั้ง กับเรื่องราวการดูพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ วันนี้ก็ยังอยู่กับพระยุควัดทุ่งแฝกนะครับ เป็นพระอีกเนื้อหนึ่งที่พบกันได้ค่อนข้างบ่อยเหมือนกัน ( แต่บางคนอาจจะบอกว่า เนื้อแบบนี้หายากครับ ) พระเนื้อแบบนี้ ส่วนใหญ่มวลสารจะค่อนข้างละเอียดกว่าเนื้อแบบอื่นๆ อย่างเช่น พิมพ์พระสมเด็จแหวกม่านยุคต้นนั้น จะสังเกตุได้ค่อนข้างชัดเจน ส่วนสาเหตุที่บางท่านอาจจะสังเกตุเห็นว่าผมมักจะอ้างอิงจากพระสมเด็จแหวกม่านยุคต้นเป็นหลักนั้น ก็เนื้องมาจาก พิมพ์นี้เป็นพิมพ์นิยม ซึ่งได้รับการยอมรับว่า เป็นพระพิมพ์มาตรฐานของหลวงพ่อสงวน ยุควัดทุ่งแฝกไปแล้วนั่นเองครับ ส่วนพระพิมพ์อื่นๆนั้น เท่าที่สังเกตุ พบว่า พระเนื้อเขียวนี้ เนื้อจะค่อนข้างแกร่ง และ แข็งกว่าแบบอื่นๆ ดูแล้ว สันนิษฐานว่า หลวงพ่อสงวน ท่านอาจจะผสมปูนซีเมนต์ลงไปด้วย ทำให้เนื้อพระมีลักษณะดังกล่าว และ นั่นก็คงเป็นสาเหตุให้เนื้อพระมีสีเขียวเช่นเดียวกับสีปูนซีเมนต์นั่นเอง เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราไปดูตัวอย่างพระเนื้อเขียวหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือยุควัดทุ่งแฝกกันดีกว่าครับ องค์แรกหนีไม่พ้นพระพิมพ์ยอดนิยมเช่นเคย

พระสมเด็จแหวกม่านยุคต้น เนื้อสีเขียว หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ



ด้านหลัง พระพิมพ์นี้ เนื้อแบบนี้ ถึงจะไม่คมชัดสวย เหมือนเนื้ออื่นๆ แต่เรื่องของประสบการณ์ไม่ต้องห่วงครับ ลองแล้ว ไม่แพ้เนื้ออื่นเลย เจอที่ไหนไม่ต้องเกี่ยงครับ พิมพ์นี้ เก็บไว้เถอะ



ขยายให้ดูมวลสารชัดๆ จะเห็นได้ว่า มวลสารค่อนข้างจะละเอียด และมีปริมาณน้อยกว่า เนื้อแบบอื่นๆ สิ่งที่สังเกตุได้ชัดเจนของพระเนื้อเขียวพิมพ์นี้ก็คือ เรื่องของดอกว่านสีน้ำตาลเล็กๆ ที่ผมได้กล่าวถึงในตอน พระเนื้อสีน้ำตาลนั่นเอง ถ้าใครจำไม่ได้ก็ย้อนกลับไปดูได้นะครับ ลองสังเกตุกันดูครับ



ตัวอย่างพระพิมพ์สมเด็จแหวกม่านยุคต้นเนื้อเขียว จะสังเกตุเห็นได้ว่า เวลาทำพระ หลวงพ่อมักจะใช้บล๊อคแม่พิมพ์หลายๆอัน จึงทำให้พระลักษณะออกมาแตกต่างกัน หลายๆองค์ในภาพก็น่าจะมาจากบล๊อกเดียวกันครับ



ด้านหลัง มีรูปหนังไก่ติดมาทุกองค์



พระผงสุพรรณ เนื้อเขียว หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ



ด้านหลัง พระเนื้อแบบนี้ เนื้อจะแข็งแกร่งมากครับ



พระนางพญา เนื้อเขียว อมน้ำตาล หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ



ด้านหลัง



พระสมเด็จสามชั้น หูบายศรี เนื้อเขียว หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ



ลักษณะเนื้อพระแบบนี้ คล้ายๆจะมีส่วนผสมของปูนซีเมนต์นะครับ



พระกำแพงลีลาทุ่งเศรษฐี เนื้อสีแดง และ เขียว หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ



ทั้งสององค์นี้ ถ้าสังเกตุให้ดีจะพบว่า น่าจะมาจากแม่พิมพ์บล๊อคเดียวกันครับ ด้านหลังนูนทั้งสององค์



ครับ ก็เป็นบันทึกอีกหน้าหนึ่ง ให้คนที่เพิ่งรู้จักหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ได้ศึกษากัน ว่าท่านมีพระพิมพ์ไหน เนื้อแบบไหนกันบ้าง ถึงพระท่านจะมีหลากหลาย ทั้งเรื่องเนื้อและพิมพ์ แต่การเล่นหา ในช่วงกำลังศึกษาแรกๆนั้น เล่นพระและเนื้อหามาตรฐาน เป็นที่ยอมรับกันจะดีกว่านะครับ จะได้ไม่หลงทาง เดี๋ยวจะไปเจอของยัดวัดเข้า แล้วบอกว่า เป็นของหลวงพ่อสงวนล่ะแย่เลย ก็ขอให้ทุกท่านที่ศรัทธาท่านได้ของดีของแท้ไว้ใช้กันนะครับ วันนี้ก็ขอลากันไปก่อนครับ สวัสดีครับ

การดูพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ตอนที่ 18 ( พระเนื้อขาววัดทุ่งแฝก )

วันนี้มาต่อกันด้วย เรื่องพระหลวงพ่อสงวน เนื้อขาวยุควัดทุ่งแฝกกันนะครับ เนื้อสีขาวนี้ เป็นอีกเนื้อหนึ่งที่พบเป็นจำนวนไม่น้อย มีพิมพ์ต่างๆ เฉกเช่นเดียวกับพระเนื้ออื่นๆครับ แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่า พระเนื้อแบบนี้ จะมีสภาพไม่ค่อยจะสวยงามคมชัดเช่นพระเนื้ออื่นๆ และ สภาพพระมักจะหาองค์สวยๆสมบูรณ์ยาก จะสังเกตุเห็นรอยบิ่น รอยแมลงแทะ ปรากฏอยู่ทั่วไป ไม่ทราบเหมือนกันครับ ว่าทำไมเป็นเฉพาะพระเนื้อสีแบบนี้ วันนี้ก็มาดูตัวอย่างพระเนื้อแบบนี้กันนะครับ

พระสมเด็จแหวกม่านยุคต้น หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ เนื้อสีขาว



พระประธานห้าชั้น หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ เนื้อสีขาว



พระสมเด็จแหวกม่านเล็กยุคต้น หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ เนื้อสีขาว



พระสมเด็จแหวกม่านยุคต้น หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ อีกองค์หนึ่ง



พระสมเด็จแหวกม่านเล็กอีกองค์ครับ



ที่พูดมา ก็ไม่ใช่ว่า พระเนื้อแบบนี้จะไม่มีองค์สวยๆนะครับ ก็มีอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เพียงแต่ผมสังเกตุว่า เนื้อแบบนี้ มักจะมีรอยแมลงแทะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน วันนี้คงมากันแค่สั้นๆแต่ได้ใจความนะครับ สำหรับบันทึกอีกหนึ่งหน้าของพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ อาจจมีคนถามว่า แล้วประสบการณ์พระเนื้อแบบนี้เป็นอย่างไร ก็คงตอบได้เพียงว่า ขึ้นชื่อว่า พระหลวงพ่อสงวน ท่านแล้ว เรื่องธรรมดาคงไม่มี ขอให้เป็นพระแท้เถอะนะครับ ของแบบนี้คงต้องลองด้วยตัวเอง วันนี้ลาไปก่อน แล้วกลับมาพบกันใหม่ตอนหน้าครับ