
ด้านหลังมีรอยจาร ลายมือเดียวกับลูกอมตอนก่อนนั่นเอง การจารก็ยังผิดอักขระเหมือนอย่างชิ้นก่อน

ลองเทียบอักขระการเขียนที่ถูกต้องของ หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ จากต้นฉบับพระขุนแผนหลังจารดูนะครับ

จะสังเกตุได้ว่าลายมือนั้นแทบจะไม่เหมือนกันเลย แถมของจารเลียนแบบยังเขียนผิดทั้งตัว "โม" กับ ตัว "ทธา" อีก ซึ่งใต้ตัว"ธา" นั้น ควรเป็น ท.ทหาร หรือ ธ.ธง ซึ่งอักษรขอมจะใช้แทนกันอยู่บ่อยๆ แต่คนนี้จารเป็น หยักๆ คล้ายสามเหลี่ยมสองอัน ซึ่งไม่สามารถจะอ่านเป็นตัวอะไรได้เลย เมื่อส่องไปดูใกล้ๆ พบว่า ทีแรกคนจารคงกะเขียนด้วยหมึกสีน้ำเงิน แล้วคงเปลี่ยนใจ ใช้หมึกสีดำแทน เพื่อให้ดูหมึกยากขึ้น เลยหยิบปากกาสีดำมาเขียนทับ เลยปรากฏผลอย่างที่เห็น หมึกสีน้ำเงินอันเดิมก็ยังสดชัด ส่วนหมึกสีดำสังเกตุดีๆก็ยังใหม่ เพียงแต่ดูยากกว่าสีน้ำเงินเท่านั้นเอง

รูปข้างล่างนี้ ลองสังเกตุรอยหลุมเล็กๆจากแมงกินผงแทะด้านหลังองค์พระ ที่ลูกศรชี้นะครับ รอยนี้เพิ่งเกิดมาทีหลังองค์พระนานมาก สังเกตุจากความใหม่ของผงด้านในหลุม ซึ่งถ้ารอยจารนี้เป็นหมึกของจริงของหลวงพ่อสงวนที่จารมาตั้งแต่สมัยนั้น พอเกิดหลุมนี้ รอยหมึกควรโดนตัดขาดหายไป แต่รอยนั้นเห็นได้ชัดว่าจารทีหลังการเกิดหลุม สังเกตุได้จากการรอยหมึกที่เกิดเป็นวงรอบๆปากหลุมอันเกิดจากปากกาลากไปตกร่องพอดี ซึ่งพอตกแล้ว คนจารยังยกปากกาขีดหางต่อไป ทำให้เกิดเป็นสองรอย สังเกตุดีๆว่าหางหลังหลุมเกิดจากการลากอีกทีหนึ่ง

และจุดสำคัญก็คือ ไม่ปรากฏรอยกดของปากกาอย่างที่ควรจะมี หวังว่า คงพอดูกันได้ชัดเจนขึ้นแล้วนะครับ แล้วพบกับของสองชิ้นสุดท้ายในตอนหน้านะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น