29 พฤศจิกายน 2551

การดูรอยจารหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ภาคพิเศษ เรื่องรอยจารเปียก

ไหนๆก็ไหนๆ ก่อนขึ้นเรื่องการดูเนื้อพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ขอพูดถึงการดูรอยจารให้จบทีเดียวเลยแล้วกันนะครับ นอกจากรอยจารด้วยหมึกแล้ว หลวงพ่อสงวนท่านยัง ใช้วัสดุอื่นที่ไม่ใช่ปากกาจารพระด้วย ซึ่งจะปรากฏเพียงรอยบนองค์พระ แต่ไม่มีหมึก ซึ่งบางคนอาจคิดว่า รอยจารนี้น่าจะดูยาก เพราะลายมือก็ย่อมผิดเพี้ยนไปด้วย แต่จริงๆรอยนี้ดูง่ายครับ ถ้าใครคิดจะปลอม คงจะยากหน่อย เพราะพระหลวงพ่อสงวนเนื้อแข็งมาก การปลอมด้วยหมึกง่ายกว่าเยอะครับ ผมยกตัวอย่างพระขุนแผนไข่ผ่าองค์หนึ่งให้ดูเป็นแนวทางแล้วกันนะครับ

พระขุนแผนไข่ผ่า หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ

Photobucket

ด้านหลังจารยันต์อุครับ

Photobucket

ภาพขยายรอยจาร

Photobucket



การพิจารณารอยจารเปียกนั้น ให้ลองนึกถึง เวลาเราเอาไม้ไปเขียนดินที่มันเปียกๆอยู่ครับ จะสังเกตุเห็นว่า ดินในรอยนั้นจะลู่ไปตามไม้ที่เราลาก รอยจารเปียกพระหลวงพ่อสงวนก็จะมีลักษณะเช่นเดียวกันครับ เพราะการจารเปียกต้องกระทำตอนพระยังไม่แห้งสนิทเท่านั้น ลองสังเกตุรอยที่ลูกศรชี้นะครับ

Photobucket


หากใครคิดจารเปียกเลียนแบบ คงต้องขุด หรือ ขูดเนื้อพระเท่านั้น ซึ่งจะไม่เกิดรอยแบบนี้ครับ ตัวอย่างพระอีกองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นรอยจารแท้ เพราะเป็นลักษณะเดียวกัน

Photobucket


ก็คงจะครบเรื่องรอยจารไปแล้ว ไว้พบกันใหม่ตอนหน้าเรื่องการดูเนื้อพระหลวงพ่อสงวนนะครับ วันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ

18 พฤศจิกายน 2551

การดูรอยจารพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ตอนที่ 4

ก็มาถึงของสองชิ้นสุดท้าย ซึ่งสองชิ้นนี้ผมได้มาพร้อมกัน จากเจ้าของเดียวกัน พร้อมนิยายว่า รับมาจากมือหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือเลย ชิ้นหนึ่งเป็นลูกอมลงจาร และ อีกชิ้นหนึ่งเป็นพระขุนแผนหลังจารยันต์ตรีนิสิงเห ลูกอมผมคงจะไม่กล่าวซ้ำ เพราะความสดใหม่ของหมึก ลายมือแบบเดิม และ การจารผิดอักขระแบบเดิมเช่นเดียวกับลูกอมที่ผมโชว์ในตอนที่สองนั่นเองครับ

Photobucket

โปรดสังเกตุ ตัว "โม" ก็ยังผิดแบบเดิมๆ

Photobucket

ตัว "ทธา" ผิดเช่นเคย

Photobucket

มุมนี้อ่านว่า " จะ ภะ กะ สะ " ตัว กะ กับ สะ ก็ยังเป็นท.ทหารกับ ช.ช้างใส่หมวกเหมือนเดิมครับ

ของชิ้นต่อไปที่มาด้วยกันกับลูกอมข้างบนก็คือ พระขุนแผนหลังจารยันต์ตรีนิสิงเห พร้อมกับ อักขระ " นะ ชา ลี ติ " ครับ

Photobucket

ลายมือเดียวกันครับ ลองสังเกตุดูดีๆจะพบว่า เนื้อหมึกมีการร่อนหลุดไปบางส่วน เหตุที่เป็นเช่นนี้ สันนิษฐานว่า เนื่องจาก ตัวองค์พระนั้น ผ่านการเวลามายาวนาน เนื้อจึงแห้งสนิท และ แข็งมาก หมึกที่นำมาจารทีหลังเลยเกาะไม่ติด ทำให้หลุดร่อนไปบางส่วน ดูกันชัดๆนะครับ จะสังเกตุว่า หมึกนั้นสดใหม่มาก และ ไม่เกาะกับเนื้อพระ แน่นอนครับ ไม่มีรอยจมของปากกาอย่างที่ควรจะเป็น

Photobucket

เนื้อพระมีส่วนยื่นเกินมา ก็ยังเขียนไปติดอีก และ สิ่งที่ฟ้องอีกอย่างว่า คนที่ปลอมรอยจารนี้อ่านยันต์หรืออักขระไม่เป็น ก็คือ ตามปกติยันต์ตรีนิสิงเหนั้น จะลงกันเป็นตัวเลข แต่คนปลอมคงไม่ทันสังเกตุว่า ในช่องสุดท้ายที่จะลงเป็นเลขเก้า สักแต่ลอกๆมา เลยจารเป็นตัวอุณาโลมไปเต็มๆ

Photobucket

และ นี่คือ รอยจารที่ผมเห็นบนพระสมเด็จแหวกม่านใหญ่องค์หนึ่ง ลองเปรียบเทียบลายมือดูกับ พระขุนแผนองค์นี้ดูชัดๆนะครับ จะเห็นว่า ลายมือเดียวกัน

Photobucket

ลองเปรียบเทียบกับรอยจารลายมือแท้ๆของ หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ อีกซักทีนะครับ

Photobucket

จะเห็นว่าความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความสวยงาม และ ลักษณะลายมือนั้นต่างกันชัดเจน

พระและของที่ผมได้รับมา ตัวผมเองมิได้ต้องการให้ของเหล่านี้ กลับไปสู่วงจรอุบาทว์และออกไปสู่ตลาดพระ จึงมิได้คืนคนขาย และ ขอเงินคืนอย่างที่คนปกติเขาทำกัน ซึ่งจะทำให้มีคนตกเป็นเหยื่ออีกไม่รู้จบสิ้น ปัจจุบันผมได้ลบรอยจารปลอมเหล่านี้ออกจากหลังองค์พระ และ ของทุกชิ้น ให้คงเหลือแต่สภาพพระแท้ๆตามเดิม เพราะยังไงเสียของเหล่านี้ก็เป็นของแท้ครับ

Photobucket

อยากเตือนอีกเรื่องก็คือ ปลัดและลูกอม จารเก๊ ช่วงนี้ผมก็เห็นออกมาบ่อยเหมือนกัน ซึ่งอันตรายมากสำหรับคนอ่านอักขระหรือดูลายมือหลวงพ่อไม่ออก เพราะไม่มีรอยลึกให้สังเกตุแบบพระเครื่อง พึงระลึกไว้เสมอนะครับว่า ของมีจารหลวงพ่อนั้น เป็นของที่มีน้อยชิ้น และ หายไปจากพื้นที่แทบจะหมดมานานแล้ว หากเจอตอนนี้ก็ขอให้พิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจเช่าหานะครับ บทความนี้คงช่วยในการใช้วิจารณญาณของท่านได้ไม่มากก็น้อย ที่ผมกล่าวมาทั้งหมด มิได้บอกว่า ของที่ไม่มีรอยกดปากกา จะเป็นของจารเก๊ทั้งหมด ของแท้ก็มีครับ ( แต่เท่าที่เห็นผ่านตาส่วนใหญ่มีแต่จารเก๊ครับ ) เพียงแต่สำหรับคนที่อ่านรอยจารไม่ออก รอยลึกของปากกาจะช่วยให้ท่านปลอดภัยได้มากกว่า 99% ลายมือนั้นอาจลอกเลียนแบบกันได้ แต่รอยกดของปากกา และ ความสดของหมึก ยังไงก็หลอกกันได้ยากครับ ต้องสังเกตุกันให้ดี ก็หวังว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่รับชมกันมา คงได้ประโยชน์กันไปบ้าง ซึ่งหากมีข้อผิดพลาดประการใด ผมก็ต้องขออภัยและขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียว แล้วพบกันใหม่กับบทความต่อไปเรื่องการดูเนื้อพระหลวงพ่อสงวนนะครับ สวัสดีครับ

การดูรอยจารพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ตอนที่ 3

ชิ้นที่สอง ที่จะนำเสนอกันเป็นพระขนาดบูชาของ หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ องค์ขนาดประมาณหน้าตักสามนิ้ว

Photobucket

ด้านหลังมีรอยจาร ลายมือเดียวกับลูกอมตอนก่อนนั่นเอง การจารก็ยังผิดอักขระเหมือนอย่างชิ้นก่อน

Photobucket

ลองเทียบอักขระการเขียนที่ถูกต้องของ หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ จากต้นฉบับพระขุนแผนหลังจารดูนะครับ

Photobucket

จะสังเกตุได้ว่าลายมือนั้นแทบจะไม่เหมือนกันเลย แถมของจารเลียนแบบยังเขียนผิดทั้งตัว "โม" กับ ตัว "ทธา" อีก ซึ่งใต้ตัว"ธา" นั้น ควรเป็น ท.ทหาร หรือ ธ.ธง ซึ่งอักษรขอมจะใช้แทนกันอยู่บ่อยๆ แต่คนนี้จารเป็น หยักๆ คล้ายสามเหลี่ยมสองอัน ซึ่งไม่สามารถจะอ่านเป็นตัวอะไรได้เลย เมื่อส่องไปดูใกล้ๆ พบว่า ทีแรกคนจารคงกะเขียนด้วยหมึกสีน้ำเงิน แล้วคงเปลี่ยนใจ ใช้หมึกสีดำแทน เพื่อให้ดูหมึกยากขึ้น เลยหยิบปากกาสีดำมาเขียนทับ เลยปรากฏผลอย่างที่เห็น หมึกสีน้ำเงินอันเดิมก็ยังสดชัด ส่วนหมึกสีดำสังเกตุดีๆก็ยังใหม่ เพียงแต่ดูยากกว่าสีน้ำเงินเท่านั้นเอง

Photobucket

รูปข้างล่างนี้ ลองสังเกตุรอยหลุมเล็กๆจากแมงกินผงแทะด้านหลังองค์พระ ที่ลูกศรชี้นะครับ รอยนี้เพิ่งเกิดมาทีหลังองค์พระนานมาก สังเกตุจากความใหม่ของผงด้านในหลุม ซึ่งถ้ารอยจารนี้เป็นหมึกของจริงของหลวงพ่อสงวนที่จารมาตั้งแต่สมัยนั้น พอเกิดหลุมนี้ รอยหมึกควรโดนตัดขาดหายไป แต่รอยนั้นเห็นได้ชัดว่าจารทีหลังการเกิดหลุม สังเกตุได้จากการรอยหมึกที่เกิดเป็นวงรอบๆปากหลุมอันเกิดจากปากกาลากไปตกร่องพอดี ซึ่งพอตกแล้ว คนจารยังยกปากกาขีดหางต่อไป ทำให้เกิดเป็นสองรอย สังเกตุดีๆว่าหางหลังหลุมเกิดจากการลากอีกทีหนึ่ง

Photobucket

และจุดสำคัญก็คือ ไม่ปรากฏรอยกดของปากกาอย่างที่ควรจะมี หวังว่า คงพอดูกันได้ชัดเจนขึ้นแล้วนะครับ แล้วพบกับของสองชิ้นสุดท้ายในตอนหน้านะครับ

การดูรอยจารพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ตอนที่ 2

มาต่อกันนะครับ อย่างที่ผมได้กล่าวไปตั้งแต่ตอนที่หนึ่งแล้วว่า ช่วงนี้พวกมือผีออกอาละวาดหนัก เล่นจับพระแท้ๆของ หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ มาจารเลียนแบบลายมือท่าน พึงตะหนักไว้นะครับว่า ของมีจารของหลวงพ่อสงวนหมดไปจากพื้นที่ไม่ปรากฏให้เห็นมานานแล้ว ดังนั้นช่วงนี้ ถ้ามีลูกอมลงจาร พระมีจาร โดยเฉพาะปลัดขิก ก็ให้ระวังกันเป็นพิเศษ วันนี้ผมก็มีตัวอย่างของจารเก๊ๆของหลวงพ่อสงวนมาให้ชมครับ ของเหล่านี้ออกตัวไว้ก่อนว่า ผมโดนมากับตัวเอง ไม่อยากให้พี่ๆน้องๆที่รักและศรัทธาท่านต้องตกเป็นเหยื่อ ไปดูของชิ้นแรกกันเลยแล้วกัน

ของชิ้นแรก ลูกอมลงจารเลียนแบบลายมือ หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ครับ

Photobucket

ลูกอมลูกนี้ ดูเหมือนไม่มีอะไร สำหรับคนอ่านยันต์หรือรอยจารไม่ออกก็อาจคิดว่า เป็นของที่หลวงพ่อสงวนท่านจารไว้จริง แต่มีความผิดปกติตรงที่ อักขระจารไม่ถูก และ สีที่ค่อนข้างสดใหม่ ลองดูใกล้ๆกันนะครับ

Photobucket

จะเห็นหมึกที่ค่อนข้างสดใหม่ ยังเห็นเป็นเหลือบชัดเจน ที่สำคัญคือ ไม่มีรอยจมของปากกา แต่ไม่ใช่ว่าลูกอื่นไม่มีรอยจมแล้วจะไม่แท้นะครับ เพราะบางลูกหลวงพ่อสงวนท่านก็จารตอนแห้งแล้ว ไม่เหมือนพระที่ส่วนใหญ่จะจารตอนออกจากพิมพ์ใหม่ๆ ดังนั้นความเก่าของหมึกคือสิ่งที่ต้องใส่ใจเป็นลำดับแรก ดูกันอีกมุมนะครับ

Photobucket

จะยังคงเห็นความสดใหม่ของหมึก เห็นลักษณะเป็นเหลือบสะท้อนแสงของหมึกสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี ตัว " ธา " ที่เห็นนั้นจารพยัญชนะเชิงใต้ตัว "ธ" ผิดเต็มๆ
ผมคงจะไม่ลงลึกเรื่องลายละเอียดอักขระนะครับ เอาแค่คร่าวๆ ไม่อยากให้มิจฉาชีพนำไปแก้ไข สังเกตุเนื้อลูกอมดีๆนะครับ จะเห็นว่า เนื้อลูกอมนั้นแท้

Photobucket

รูปนี้ ตัว "กะ" กับ " สะ " ก็จารผิด คงเนื่องจากคนจารไม่รู้อักขระว่าคือตัวอะไร สักแต่ลอกๆมา พี่แกเลยใส่แบบ ตัว ท.ทหาร กับ ช.ช้างไปเต็มๆ แถมช.ช้างมีหมวกบนหัวอีก ไปดูตัว "โม" กันหน่อยครับ

Photobucket

ตัว "โม" นั้นก็จารผิด เนื่องจากคนจารน่าจะไม่รู้อักขระชัดเจนมากนัก น่าจะทราบแต่ว่าอ่านว่า "โม" เลยใส่เป็นสระโอแบบภาษาไทย ซึ่งสะละโอในภาษาขอมนั้นคือ ตัว " เ-ว " ครับ ไม่ใช่ "โ-ว" อย่าที่เห็น และตัว "ม" แบบก็ยังเขียนเหมือนตัวอีในภาษาอังกฤษอีก จารผิดชัดเจนอย่างนี้ ยังไงก็ไม่ใช่หลวงพ่อสงวนท่านจารแน่ๆครับ

การพิสูจน์หมึกนั้นทำได้ไม่ยากครับ พอใช้ไม้พันสำลี ชุบน้ำเช็ดเบาๆ สีหมึกก็หลุดออกมาง่ายๆ สังเกตุได้ว่า สีหมึกยังสดใหม่มากๆ

Photobucket

นี่คือตัวอย่างแรกของรอยจารไม่แท้นะครับ ที่เป็นหลักฐานว่า มีมิจฉาชีพพยายามเลียนแบบลายมือหลวงพ่อสงวน เพื่อให้ขายได้ราคาสูงขึ้น เนื่องจากของมีจารของท่านนั้น คนที่ศรัทธาต่างหวังที่จะมีไว้ในครอบครอง ทำให้ค่านิยมและราคาสูงกว่าของธรรมดาที่ไม่มีรอยจารอยู่หลายเท่าตัว ลูกนี้จริงๆผมได้มาหลังของจารเลียนแบบชิ้นอื่น แต่นำมาให้ชมก่อน เพราะดูได้ง่ายกว่าทุกชิ้น ในตอนหน่าเรามาเรียนรู้กันต่อกับของชิ้นต่อไปกันนะครับ

17 พฤศจิกายน 2551

การดูรอยจารพระหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ตอนที่ 1

ช่วงนี้แว่บไปเห็นวัตถุมงคลหลวงพ่อสงวนตามเวบต่างๆ แล้วอ่อนใจครับ ของมีจารของท่านที่หายากแสนยาก ช่วงนี้กลับปรากฏกายเยอะแยะผิดปกติ อยากจะเตือนผู้ที่รักและศรัทธา อยากได้ของมีจารหลวงพ่อสงวนหน่อยว่า มิจฉาชีพนั้นเริ่มอาละวาดรอบใหม่มาซักระยะแล้วครับ แต่ก่อนนี้ทำพระปลอมทั้งเนื้อ ซึ่งดูไม่ยากนัก และ การจารก็จารเป็นยันต์น้ำพุแบบดูกันว่าปลอมกันง่ายๆ แต่รุ่นใหม่นี่เค้าเล่นกันเนียนขึ้นครับ เอาพระแท้ๆนี่แหละมาจาร นัยว่าจะโขกราคาได้แพงขึ้นอีกหลายเท่าตัว นอกจากพระจารไม่แท้แล้วนี้ยังเจอ ลูกอม ปลัด ยันต์จารมือ ที่มีคนเลียนแบบลายมือหลวงพ่อสงวนระบาดเยอะไม่แพ้กัน เชื่อว่าคนส่วนใหญ่อ่านอักษรขอมกันไม่ออกนั้น ยิ่งน่าหนักใจแทนจริงๆครับ การดูอักขระนั้น ใช่ว่าคนที่อ้างตัวว่าเป็นลูกศิษย์ หรือ ผู้ที่รักและศรัทธาท่านนั้นจะดูกันออกทุกคน อย่าไว้ใจครับว่าได้จากคนที่น่าเชื่อถือ เล่นหากันมานาน คนคนนั้นเขาอาจจะอ่านเนื้อพระไม่ขาด หรือ อ่านอักษรขอมไม่กระจ่างก็ได้ วันนี้ผมจึงนำเรื่องราวการดูรอยจารของหลวงพ่อมาฝากครับ

พระหลังจารหลวงพ่อสงวนของแท้ส่วนใหญ่ที่เจอมานั้น มีจุดตายที่สังเกตุได้ก็คือ หมึกจะเก่าได้อายุ และตัวหนังสือจะปรากฏเป็นรอยร่องจมลงไปในเนื้อพระ ซึ่งเกิดจากการที่หลวงพ่อสงวนท่านจารพระตอนที่เพิ่งแกะบล๊อก เนื้อพระยังไม่แห้งสนิทดี สำหรับคนที่อ่านอักษรขอมไม่ออก ต้องพึงระลึกจุดตายนี้ไว้ให้ขึ้นใจ แล้วท่านจะปลอดภัยครับ พระจารเลียนแบบลายมือหลวงพ่อสงวนส่วนใหญ่ เป็นการจารจากพระที่แห้งสนิทผ่านการเวลามานานแล้ว หมึกจะไม่ค่อยเกาะเนื้อพระ สีหมึกจะยังดูสดใหม่ และจะไม่ปรากฏเป็นร่องจมลงไปให้เนื้อพระให้เห็นอย่างของแท้

ตัวอย่าง พระจารแท้ของหลวงพ่อสงวน

พระสมเด็จแหวกม่านหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ หลังจารยันต์ตรีนิสิงเห

Photobucket

พระขุนแผนหลังจาร หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ

Photobucket

พระขุนแผนหลังจาร หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ อีกองค์

Photobucket


จำให้ขึ้นใจนะครับ จุดตายรอยจารหลวงพ่อสงวนแท้ก็คือ หมึกต้องเก่าได้อายุ และ จะต้องมีร่องจมลงไปในเนื้อพระ เท่านี้ท่านก็จะปลอดภัยแล้วล่ะครับ อย่างองค์นี้ แม้หมึกจะเลือนไปตามกาลเวลา แต่รอยร่องของปากกานั้นก็ยังคงอยู่

Photobucket

สังเกตุดูลักษณะของหมึกนะครับ หมึกนั้นจะแห้งสนิท และดูเก่าได้อายุ พร้อมกันนั้นก็จะมี ร่องที่เกิดจากแรงกดของปากกาตามรอยจารอีกด้วย

Photobucket

Photobucket


ลายมือหลวงพ่อสงวนท่านจะสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย และ ที่สำคัญคือ ท่านมีความรู้ถึงระดับนักธรรมเอก ดังนั้น การจารของท่านจะถูกต้องตามอักขระวิธี ซึ่งของจารเลียนแบบนั้นจะจารไม่ค่อยถูกครับ ตัวอย่างลายมือแท้ของ หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ครับ สังเกตุความเก่าของหมึกและร่องที่เกิดจากรอยกดของปากกาให้ดีนะครับ

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket


ตอนนี้ดูตัวอย่างพระแท้ หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือไปก่อนนะครับ ตอนหน้าผมจะนำตัวอย่างพระจารเลียนแบบ หรือ เรียกกันภาษาชาวบ้านว่า จารเก๊ มาให้ชม แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ

เกี่ยวกับฉัน